คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

ย้อนกลับ

แก้วดีบุก

ดีบุกสินแร่บันลือโลก

หลังจากนำเสนอเรื่องถ้ำชาไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สัปดาห์นี้เรายังอยู่กับผลผลิตจากดีบุก ซึ้งจัดแสดงอยู่ในนิทรรศการภูเก็ตนครา วันนี้ได้หยิบเรื่องราวของ “แก้วดีบุก” ผลิตภัณฑ์จากดีบุกอีกหนึ่งชิ้นที่อยู่คู่วัฒนธรรมดื่มกินในหลาย ๆ อารยะธรรมทั่วโลกมาฝากกัน
.
"แก้วดีบุก" เป็นเครื่องดีบุกที่มีลักษณะที่เรียกว่า “พิวเตอร์” คือโลหะผสมที่มีดีบุกเป็นส่วนผสมหลักหลักราว 90 เปอร์เซ็นต์ และผสมด้วยธาตุอื่น ๆ เช่น ทองแดง พลวง และตะกั่ว อีกราว 10 เปอร์เซ็นต์ โดยพิวเตอร์จะแตกต่างจากสำริดตรงที่มีดีบุกมากกว่าทองแดง
.
ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ามนุษย์รู้จักใช้พิวเตอร์ในการทำภาชนะต่าง ๆ เมื่อใด แต่หลักฐานเก่าแก่ที่สุดมีอายุราว 3,800 ปี (1580-1350 ปี ก่อนคริสตกาล ) สิ่งที่ว่านั้น คือคนโทน้ำที่ขุดพบในหลุมศพที่ Abydos ในอียิปต์ และปรากฏอยู่ในหลากหลายอารยธรรมทั่วโลก เช่น ถังบ่มเบียร์ของอังกฤษและเยอรมัน คนโทหมักเหล้าในพระราชวังญี่ปุ่น
.
ถ้ากล่าวถึงยุคทองของภาชนะดีบุกก็ต้องกล่าวถึงจักรวรรดิโรมัน ช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่นำดีบุกมาแปรรูปเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนอย่างกว้างขวางมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก และด้วยรสนิยมของชาวโรมันที่นิยมการกินดื่มโดยเฉพาะไวน์ "แก้วดีบุก" จึงถูกผลิตขึ้นเป็นจำนวนมหาศาล เพราะชาวโรมันเชื่อว่าแก้วดีบุกมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาอุณหภูมิ คุณภาพ และทำให้รสชาติของไวน์ดีขึ้น
.
แม้แต่ในกระบวนการทำไว้ก็นิยมใช้หม้อต้มจากโลหะพิวเตอร์ที่มีส่วนผสมของตะกั่วในการต้มไวน์ ทำให้ไวน์ที่ได้ มีรสดีกว่าภาชนะอื่น ๆ เพราะเมื่อ ดีบุก ตะกั่ว พบกับกรดในองุ่นทำให้เกิดสารที่เรียกว่า "ตะกั่วอซิเตต" มีฤทธิ์ไม่ต่างจากผงชูรสในปัจจุบัน แก้วดีบุก จึงเป็นภาชนะที่อยู่คู่วัฒนธรรมการดื่มของชาวโรมันและนิยมแพร่หลายจนกลายเป็นสินค้าส่งออกของโรมันไปขายยังดินแดนต่าง ๆ รวมถึงอินเดีย
.
ยุคทองของเครื่องดีบุกอีกช่วงเวลาหนึ่งเกิดขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1770 (พ.ศ. 2313 - พ.ศ. 2322) ชาวอังกฤษได้คิดค้นพัฒนาคุณภาพของเครื่องดีบุกโดยการนำดีบุกผสมกับทองแดงและพลวงได้เป็นโลหะผสมที่เรียกว่า “Britannia Metal” เครื่องดีบุกได้ถูกใช้อย่างกว้างขวาง และด้วยวัฒนธรรมดื่มเบียร์ของอังกฤษ แก้วสำหรับดื่มเบียร์ได้กลายเป็นอีกผลผลิตจากดีบุกที่เป็นที่นิยมแพร่หลาย
.
“แก้วดีบุก” ซึ่งหมายถึงตัวแร่ดีบุกด้วย ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมการดื่มกินของมนุษยชาติมาอย่างยาวนานนับพันปี แก้วดีบุกจึงเป็น เครื่องใช้จากดีบุกที่มีชื่อเสียงบันลือโลกอีกหนึ่งชิ้น ที่มิวเซียมภูเก็ตอยากเอามาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก
.
*คอนเทนต์นี้ใช้คำว่า "แก้ว" ในความหมายของภาชนะที่มีไว้สำหรับใส่เครื่องดื่ม ตามความเข้าใจทั่วไป แม้ว่าไม่ได้ทำมาจากแก้วก็ตาม
.
อ้างอิง/ข้อมูลเพิ่มเติม
1. หนังสือรูปแบบผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทย กระทรวงอุตสาหกรรม
2. ประโยชน์ของดีบุก ชาคร เคียวสุรินทร์ และคณะ
3. http://www.dooasia.com/thaihistory/h004c003.shtml

2,183 views

0

แบ่งปัน

มิวเซียมในจังหวัดภูเก็ต