คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

ย้อนกลับ

ศิริราชพิมุขสถาน

สนุกคลุกวงในที่ ‘พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน’

ใครกำลังอินกับ ‘หมอหลวง’ ซีรีส์ที่มีฉากประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 3 เป็นแบ็กกราวน์ พระเอก มาริโอ เมาเร่อ เป็นนักเรียนหมอหลวง ประกบคู่นางเอกคิมเบอร์ลี่ นักศึกษาแพทย์แผนปัจจุบันที่ข้ามเวลา นอกจากทั้งคู่จะพบรักกันแล้ว ยังผนึกพลังภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ร่วมกับความรู้แพทย์แผนปัจจุบันช่วยผู้ป่วยด้วย

อยากได้ฟีลและอยากฟิน ชวนไปเยือน พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ตีแผ่ความรู้ด้านการแพทย์ร่วมสมัยที่วัยไหนก็จอยได้ หากย้อนเวลากลับไป สถานที่ตั้งพิพิธภัณฑ์คือสถานีรถไฟธนบุรี (สถานีรถไฟสายใต้แห่งแรกในประเทศไทย) จึงมีร่องรอยความทรงจำฝังไว้ให้ได้รำลึกตลอดเวลาที่เดินชม รวมถึงวิถีชีวิตริมคลองบางกอกน้อยและวังหลังตั้งแต่สมัยธนบุรีถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของสมุนไพรไทยร้อยแปด ตื่นตากับฉากจำลองสถานการณ์ชำแหละอาจารย์ใหญ่ที่นักเรียนแพทย์ทุกคนต้องสัมผัส ชมเรือโบราณลำยักษ์อายุกว่า 100 ปี ที่ถูกค้นพบ การร้อยเรียงเรื่องราวของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะค่อยๆ อัปดีกรีความว้าวทุกก้าวที่เดิน - ถ้าไม่เชื่อ ลองมาเที่ยวด้วยกันค่ะ

ชานชาลาความทรงจำ ครั้งหนึ่งที่นี่ ‘ศิริราช’

ห้องโถงต้อนรับจำลองเป็นชานชาลาสถานีรถไฟยุคแรกเริ่ม พาเราเดินข้ามภพผ่านห้องจัดแสดงต่างๆ ได้แก่ แรกกำเนิดโรงพยาบาลศิริราช ชมภาพประวัติศาสตร์ในงานพระเมรุพระศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ซึ่งอาคารประกอบและเครื่องเรือนล้วนทำจากไม้มงคล เมื่อเสร็จงานพระเมรุแล้ว ไม้เหล่านั้นจึงถูกนำมาสร้างศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลหลวงแห่งแรกของแผ่นดิน

สายโบราณคดีลองมาค้นหารากเหง้าพื้นที่ผ่านก้อนอิฐที่หลงเหลือจากฐานป้อมพระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) เมื่อ 200 ปีก่อน ชมชิ้นส่วนเครื่องถ้วยโบราณหลากสมัยที่ค้นพบขณะกำลังสร้างสถาบันการแพทย์ ไปต่อที่ห้องจัดแสดงศัสตราวุธโบราณหลายชาติพันธุ์หาชมยาก โดยเฉพาะพระแสง 2 องค์ ที่ถูกอะแดปจากดาบซามูไรให้เป็นศัสตราวุธไทย มีแต่ผู้สูงศักดิ์เท่านั้นจะได้ครอบครอง

หลังปูเรื่องพอหอมปากหอมคอ บทถัดไปผู้เข้าชมต้องสวมแว่นตาชมภาพยนตร์ 4 มิติ ในห้องมืด ย้อนอดีตไปถึงวันเริ่มแรกสร้างสถานีรถไฟบางกอกน้อยเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ขณะชม เราจะรู้สึกเหมือนได้นั่งอยู่บนขบวนรถไฟสายใต้ที่แล่นผ่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในอดีตอย่างไม่รู้เบื่อ นอกจากภาพและเสียงแล้ว ยังมีเอฟเฟกต์เรียกเสียงฮือฮาตื่นตาตื่นใจเป็นระยะ

เสียววัดใจสไตล์นักเรียนแพทย์ สู่ร้อยแปดตำราผมด้านล่างาไทย

‘ร่างอาจารย์ใหญ่นอนยาวเหยียดบนเตียงเข็น คลุมด้วยผ้าผืนเขียวเห็นเพียงเศษเสี้ยวโครงกระดูกแขน มีดผ่าชำแหละยุคแรกเริ่มวางเรียงเคียงข้างตำรากายวิภาคศาสตร์’ ห้องนี้คือหัวใจสำคัญของการเรียนที่นักศึกษาแพทย์ทุกคนต้องเผชิญ ยิ่งรู้ว่าโต๊ะปฏิบัติการชุดนี้เป็นของจริง รองรับอาจารย์ใหญ่มารุ่นแล้วรุ่นเล่า รวมทั้งอุปกรณ์ผ่าและตำราทุกชิ้นก็ถูกส่งต่อมาหลายรุ่น ที่พีคสุดคือหุ่นบนเตียงที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นโมเดลนั้น แท้จริงคือร่างอาจารย์ใหญ่จริงที่ถูกรักษาเนื้อเยื่อไว้และนำมาจัดแสดง เดินต่อมาอีกหน่อยคือห้องจำลองการผ่าตัดแบบย้อนยุคให้เราสวมบทนักศึกษาแพทย์สังเกตการณ์ นอกจากนี้ยังมีหุ่นกายวิภาคที่ทำขึ้นจากเยื่อกระดาษอายุเกือบร้อยปี และยังมีห้องวินิจฉัยโรคยอดฮิตในวันวาน

 

โซนมหัศจรรย์ร่างกายมนุษย์คืออีกโซนที่ไม่อยากให้พลาด เราจะได้สำรวจร่างกายตัวเองทั้งในมุมมองแพทย์แผนไทยและแผนตะวันตก มาถึงจุดนี้อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่าใครชื่นชอบซีรีส์หมอหลวง รับรองว่าตื่นตาไปกับโซนจำลองร้านโอสถวัฒนา ที่มีสมุนไพรหายากวางพรืดตั้งแต่พื้นจดเพดาน

 

เดินต่อมาถึงอาคารพิพิธภัณฑ์ 3 จัดแสดงบรรยากาศวิถีชีวิตริมคลองบางกอกน้อยในอดีต และจัดแสดงเรือโบราณลำมหึมายาว 24 เมตร ที่จมลึกอยู่ใต้พื้นดินมากว่า 100 ปี ถือเป็นเรือไม้ลำใหญ่ที่สุดของบ้านเราเท่าที่เคยขุดค้นพบ เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่มาก การเก็บกู้เรือจึงต้องตัดเรือออกเป็นส่วนๆ ก่อนนำมาทำความสะอาด แล้วนำมาต่อกันกลับเป็นลำเรือเหมือนเดิม เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่อยากให้พลาด
 

ที่ตั้ง: เลขที่ 2 ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 เวลาทำการ: วันจันทร์, วันพุธ-อาทิตย์  เวลา 10.00-16.30 น.

ค่าเข้าชม • ผู้ใหญ่ 80 บาท • เด็กอายุไม่เกิน 18 ปี 25 บาท

Travel Around

  • อิ่มอร่อยสตรีตฟู้ดวังหลัง เดินพิพิธภัณฑ์เสร็จ แนะนำให้ลุยต่อที่ วังหลัง แหล่งสตรีตฟู้ดราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะร้านฮอตอย่าง อันวาชาชักปัตตานี&ยะห์ยาโรตี เป็นโรตีสูตรปัตตานีแป้งบางและนุ่มมีให้เลือกหลายไส้ ก๋วยเตี๋ยวไก่บ้านพัง ก๋วยเตี๋ยวยำรวมมิตร ข้าวผัดสุกี้หมูเด้ง จบคาวต่อของหวาน ขนมปังย่างเนยฉ่ำๆ หอมๆ ของ ร้านเจปัง ไอติมย่างเนย หรือจะนั่งชิลริมน้ำก็มีหลายร้านให้เลือกตามอัธยาศัย
  • ไหว้พระขอพรวัดอมรินทราวรวิหาร
    ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน มีวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดบางว้าน้อย ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดอมรินทราราม” มีเรื่องเล่าว่าสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา ระเบิดลงภายในวัดเสียหายหนัก แต่วิหารหลวงพ่อโบสถ์น้อย และมณฑปพระพุทธบาทจำลองไม่ได้รับความเสียหายเลย วัดแห่งนี้จึงขึ้นชื่อเรื่องความแคล้วคลาดปลอดภัย
701 views

0

แบ่งปัน

มิวเซียมในกรุงเทพมหานคร