สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
หากได้ก้าวเข้ามาสำรวจในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่สุดก็คงจะไม่พ้นเทวาลัยแห่งคณะอักษรศาสตร์ เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามเปรียบเสมือนกับแลนมาร์กของมหาวิทยาลัยที่ทุกคนต้องเข้ามาเยี่ยมเยียนสักครั้งแม้จะไม่ใช่นิสิตคณะอักษรศาสตร์ก็ตาม
เพียงแค่ได้ก้าวเท้าเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศอันร่มรื่นรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามของแดนเทวาลัย ก็ราวกับหลงเข้ามาอยู่ในอีกมิติหนึ่งแห่งกาลเวลา แทบจะได้ยินเสียงซออู้บรรเลงคลอเคล้ากับสายลมเอื่อยๆ เป็นทำนองเพลงไทยเดิมไพเราะจับใจ
ในแดนเทวาลัยแห่งนี้มีอาคารอยู่ ๒ หลัง ได้แก่ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์และอาคารมหาวชิราวุธ สถาปัตยกรรมของทั้งสองอาคารมีความงดงามผสมผสานกลิ่นอายตะวันตก อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ได้สร้างขึ้นเป็นอาคารหลังแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแบบโดย ดร. คาร์ล โดริง นายช่างชาวเยอรมันผู้รับราชการในกระทรวงมหาดไทย และนายเอ็ดเวิร์ด ฮีลี นายช่างชาวอังกฤษ รับราชการในกระทรวงธรรมการ การออกแบบเป็นการนำศิลปะไทยโบราณที่สุโขทัยและสวรรคโลกมาคิดปรับปรุงขึ้น
ส่วนอาคารมหาวชิรวุธเป็นที่ตั้งของสำนักคณบดีและสำนักงานธุรการต่างๆ ของคณะอักษรศาสตร์ และอาคารแห่งนี้เองเป็นที่ตั้งของห้องสมุดบรรยากาศเก่าแก่และมีมนต์ขลัง
สถานที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นหนังสือเก่า ความรู้สึกที่ได้ก้าวย่างเข้ามาในห้องสมุดราวกับได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อราวๆ แปดสิบปีที่แล้ว ห้องสมุดแห่งนี้แบ่งสัดส่วนได้อย่างเหมาเจาะ มีทั้งโซนหนังสือไทย หนังสือต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งนวนิยายและวรรณกรรมเยาวชน
ห้องสมุดเทวาลัยไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์รวมความรู้ แต่ยังเป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่มีร่องรอยประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย อาคารแห่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการศึกษาของชนชั้นสูงย้อนไปตั้งแต่สมัยก่อตั้งมหาวิทยาลัย อาคารมีความงดงามราวกับพระตำหนัก บรรยากาศร่มรื่นและมีสระบัวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลาง
หากอากาศแจ่มใสก็อาจจะออกมานั่งที่ระเบียงชั้นสองของห้องสมุด ชมวิวสระบัวและความงดงามของอาคารไปพลางๆ พร้อมกับอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม อาจจะเลือกหยิบวรรณกรรมภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส จีน หรือแม้กระทั่งญี่ปุ่นก็มีมากมายให้เลือกสรร เพราะที่นี่เป็นเหมือนห้องสมุดในความฝันของคนรักการอ่าน และบุคคลภายนอกก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ มีค่าบริการเพียงแค่ ๒๐ บาทต่อวัน เปิดให้เข้าบริการตั้งแต่ ๘.๐๐ น. – ๑๘.๐๐ น. ในระหว่างภาคเรียนของมหาวิทยาลัยและปิดในวันหยุดราชการ
ในแดนเทวาลัยแห่งนี้... นอกจากผู้เยี่ยมชมอาจจะหลงทางเพราะความใหญ่โตโอ่อ่าแล้วนั้น...
อาจจะต้องหลงใหลในกลิ่นอายของหนังสือและความงดงามของที่แห่งนี้จนไม่อยากจะจากไปไหน...
อ้างอิงประวัติของเทวาลัยจากเว็บไซต์ของคณะอักษรจุฬาฯ