สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
บ้านฉันอยู่ละแวกคลองบางหลวง ฝั่งธนบุรี ที่ครั้งกระนู้นยังเต็มไปด้วยท้องร่อง เรือกสวนผลไม้
ยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด และอยู่คู่กับชุมชนมานานแสนนาน
วัดกำแพง(คลองบางจาก) เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่ในเขตธนบุรี เป็นวัดขนาดเล็กที่มีการวางผังได้อย่างลงตัว แต่ยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมของโบราณสถานไว้ได้เกือบครบถ้วนทั้งสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถแม้จะทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ศิลปะสถาปัตยกรรมที่ปรากฏอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นผลงานที่สร้างหรือบูรณะขึ้นในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น หากแต่เป็นความโชคดีที่วัดกำแพงแห่งนี้ตั้งอยู่ค่อนข้างลึกจากเส้นทางคมนาคมประกอบกับเป็นวัดขนาดเล็กจึงไม่ค่อยได้รับความสนใจทำให้ยังคงสามารถรักษาสภาพดั้งเดิมไว้ได้
สภาพทั่วไป วัดกำแพงตั้งอยู่เลขที่ ๒๙๙ ซอยเพชรเกษม ๒๐ ถนนเพชรเกษม แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ริมคลองบางหลวงหรือเรียกว่าคลองบางกอกใหญ่ตอนใน ช่วงที่เรียกกันว่าคลองชักพระ
ประวัติความเป็นมา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยใด ฟังจากเรื่องเล่าโดย หลวงพี่อ้วน(พระพินิจ อสุนี ณ อยุธยา) สันนิษฐานว่าคงมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตามคำบอกเล่าสืบทอดกันมา และคงได้รับ หรือ "จีนสือ" ขุนนางเชื้อสายจีนในกรมท่าซ้าย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ออกทุนทรัพย์ในการบูรณะวัด การปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่หลายครั้ง โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ ๓ และรัชกาลที่ ๕ ปรากฏนามของ “พระพิศาลผลพานิช”
ลานหน้าพระอุโบสถ ด้านซ้ายและด้านขวามีพระวิหารหลังเล็กอยู่ข้างละหลัง หลังหนึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อบ้านแหลมจำลอง ส่วนวิหารอีกฝั่ง ถูกปิดตายมากว่า ๘๐ ปี เพิ่งมีการเปิดวิหารเมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๘โดยเจ้าอาวาส "พระครูศรีปริยติยานุรักษ์" ท่านเล่าว่า มีพระพุทธรูปมาเข้าฝัน บอกว่า เราอึดอัด จึงได้เปิดวิหารที่ถูกปิดตายนี้ออก พบพระพุทธรูปโบราณจำนวนมากทั้งทำจากสัมฤทธิ์และไม้ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร พระพุทธรูปปางมารวิชัย บางส่วนเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยรัตนโกสินทร์
ลักษณะโดยรวมพระอุโบสถเป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่วัสดุที่ได้ประดับส่วนต่างๆ ได้รับอิทธิพลศิลปะจีนเป็นแนวพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ ๓ ภายในพระอุโบสถยังมีจิตรกรรมฝาผนังอันทรงคุณค่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถมีความสวยงามมาก ตอนนี้เริ่มเลือนหายไปมากแล้ว นอกจากนี้ยังพบลวดลายประดับแบบจีนที่สลักเสลาได้งดงามละเอียดอยู่บนแท่งหินต่างๆ เช่น เสาหินข้างบันไดของพระอุโบสถ และยังพบรูปสลักหินสิงโตจีนบนแท่นหินนี้ด้วย
ในบริเวณวัดกำแพง คลองบางจากนี้ มีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ๗ องค์ ประกอบด้วย
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองขนาดใหญ่ มี ๒ องค์ องค์แรกอยู่ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ ฐานเจดีย์ด้านนอกตั้งอยู่เสมอกับแนวกำแพงกั้นเขตพุทธาวาส องค์ที่สองอยู่ในเขตรั้วชาวบ้านบริเวณปากคลองบางจากฝั่งตะวันตก(บ้านศิลปิน) เจดีย์ทั้งสองมีความสูงประมาณ ๑๐ เมตร ปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา
หากย้อนเวลากลับไปได้ เมื่อครั้งวัดยังสมบูรณ์อยู่ คงจะสวยงามไม่แพ้วัดหลวงบางวัด เพราะดูจากพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ จิตรกรรมฝาผนัง ลายปูนปั้น ฝีมือช่างล้วนมีความงดงามปราณีตเป็นอย่างมาก
คลองบางหลวงทุกวันนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนที่เรียกว่า “ชุมชนริมคลองบางหลวง”
ปัจจุบันยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายในอดีต เราสามารถพบเห็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวรูปทรงเก่าแก่ ตลอดทั้งลำคลองมีปลาสวายตัวโตๆ ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ เรือหางยาวสีสวยและเรือเมล์แล่น ผ่านไปมาเกือบตลอดทั้งวัน บ้านเก่าที่นำมาปัดโฉมใหม่เป็นร้านค้า ร้านกาแฟ สำหรับนั่งทานชมวิวริมคลอง ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของบ้านศิลปิน แหล่งศึกษาหาความรู้ สถานที่แสดงงานศิลป์ เป็นที่รวมตัวของกลุ่มศิลปินที่รักงานศิลปะ และยังมีการแสดงหุ่นละครเล็ก เปิดให้ชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ นี่แหล่ะพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆบ้านฉัน