สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
ประพาสครั้งที่ 11 พ.ศ. 2444 การเสด็จพระราชดำเนินเกาะช้าง จังหวัดตราด ในครั้งที่ 11 นี้ ทรงมีพระชนมายุ 48 พรรษา ภายหลังจากเสวยสิริราชสมบัติ 33 ปี โดยเสด็จออกจากกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 24 ภุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444 เพื่อเสด็จฯไปส่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมกรมขุนนครสวรรค์วรพินิตขึ้นเรือเมล์ที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเดินทางไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศเยอรมัน ทั้งนี้ได้เสด็จฯออกจากกรุงเทพฯ โดยรถไฟสายปากน้ำจนถึงสมุทรปราการ แล้วประทับในเรือพระที่นั่งสุริยมณฑลไปยังเรือพระที่นั่งจักรี ซึ่งจอดอยู่ที่สันดอน เดินทางตรงไปยังสิงคโปร์ มีเรือพาลีรั้งทวีป และเรือจำเริญ เป็นเรือตามเสด็จ เรือรานรุกไพรีรอรับอยู่ที่สิงคโปร์ เมื่อทรงส่งเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมกรมขุนนครสวรรค์วรพินิตขึ้นเรือเมล์ที่ประเทศสิงคโปร์แล้ว จึงเสด็จประพาสชายทะเลตะวันออก และเสด็จพระราชดำเนินคืนสู่พระนคร วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2444 การเสด็จครั้งนี้ถึงเมืองตราด วันที่ 1 มีนาคม ทรงประทับแรม ณ เขตเมืองตราด 4 ราตรี แล้วเสด็จ
นิวัติพระนคร1
ในการเสด็จประพาสครั้งนี้ ได้เสด็จไปที่วัดสร้อยสนอยู่ริมคลองนนทรี ดังที่ปรากฏความในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 18 หน้า 920 – 922 วันที่ 9 มีนาคม ร.ศ. 120 ว่า
วันที่ ๑ มีนาคม เวลาเช้า ๒ โมง เรือพระที่นั่ง ทอดที่เกาะช้างน่านอกตรงคลองมะพร้าว เปนด้านมีคลื่นไม่ควรเสด็จประพาส โปรดเลื่อนเรือเสด็จพระที่นั่งเข้ามาทอดที่เกาะช้างน่าใน ตรงคลองมะยม เวลาบ่าย ๔ โมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงเรือพระที่นั่งกรรเชียงเรือสติมลอน จูงไปเทียบที่สะพานท่าน้ำน่าด่านแลเปนที่ว่าการอำเภอ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นบนด่าน พระพิพิธพิไสยสุนทรการ ผู้ว่าราชการเมืองตราดเฝ้ารับเสด็จอยู่ที่นั้น แล้วทรงพระราชดำเนินประพาสต่อไปถึงวัดสร้อยสนอยู่ริมคลองนนทรี เสด็จในอุโบสถแล้วเสด็จประทับกุฏีที่วัดนั้นมีพระสงฆ์ ๖ รูป พระแดงเปนเจ้าอธิการ สวดไชยมงคลรับเสด็จ แล้วมีพระราชปฏิสัณฐารกับพระสงฆ์ แลพระราชทานวัตถุปัจจัยมูล แก่เจ้าอธิการแดง ๒๐ บาท พระอันดับ ๕ องค์ ๆ ละ ๔ บาท เวลาย่ำค่ำเสด็จกลับเรือพระที่นั่งมหาจักรีประทับแรมที่นี้ราตรีหนึ่ง
โบสถ์วัดสร้อยสน2
........................................
1 อภิลักษณ์ เกษมผลกูล. (2553). โครงการวิจัยเชิงประวัติศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ “ตามรอยเสด็จฯ เกาะช้าง จังหวัดตราด”. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สหธรรมิก, 370.
2 เอื้อเฟื้อภาพโดย ผศ.ดร.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล