สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
สตรีทฟู้ด หรือ วัฒนธรรมอาหารริมทาง เป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของประเทศไทย เสน่ห์ของร้านอาหารริมทางคือ ราคาถูก ขายอยู่ริมทาง หน้าบ้าน หรือตามซอกซอยต่าง ๆ รสชาติอร่อยตามแบบฉบับของคนท้องถิ่น และมีให้เลือกทานกันอย่างหลากหลาย
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็มีร้านอาหารริมทางที่ได้รับความนิยมอยู่มากมาย สำหรับบทความนี้ ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงร้านขนมหวานเก่าแก่ ชื่อดังของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา “ร้านป้าวิไล ขนมหวาน” นั่นเอง ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยข้างสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คนขายเป็นคุณยายใจดีท่านหนึ่ง ทราบมาว่าคือคุณยายวิไล อายุ 82 ปี คุณยายมีชื่อเดียวกับชื่อร้านและแน่นอนว่าเป็นผู้ตั้งร้านขนมหวานร้านนี้ขึ้นมา คุณยายวิไลเล่าถึงความเป็นมาของร้านขนมหวานแสนอร่อยของตัวเองว่า ตัวคุณยายนั้นแต่เดิมภูมิลำเนาอยู่ที่ จังหวัดนครปฐม ได้แต่งงานกับนายตำรวจท่านหนึ่ง เป็นเหตุให้ต้องย้ายที่อยู่ตามสามีบ่อย ๆ เมื่อย้ายไปอยู่จังหวัดไหนก็จะเปิดร้านขนมหวานที่ตนเองถนัดเสมอ แต่เมื่อร้านเริ่มอยู่ตัว มีลูกค้าประจำแล้วก็มักจะต้องถึงคราวย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ จนเมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้ว สามีของคุณยายก็มารับราชการที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นที่สุดท้ายก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ คุณยายวิไลจึงได้มีร้านขนมหวานที่เป็นหลักแหล่งกับเขาสักที ด้วยฝีมือบวกกับประสบการณ์การทำขนมหวาน ทำให้ร้านของคุณยายวิไลมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย จากนั้นก็เป็นการบอกต่อกันไปปากต่อปาก จนร้านมีชื่อเสียงขึ้นมาในหมู่ชาวอยุธยา จนถึงวันนี้คุณยายวิไลก็เปิดร้านขนมหวานนี้มาเป็นเวลา 30 กว่าปีแล้ว
ทุก ๆ วันคุณยายวิไลจะเปิดร้านตั้งแต่เช้ามืด ไม่เกิน 6 โมงเช้าก็จะเริ่มขายได้แล้ว ที่ร้านมีระบบบัตรคิว ใครมาก่อนก็จับบัตรคิวก่อนแล้วรอเรียกไปตามลำดับ ด้วยความที่ร้านตั้งอยู่ริมถนน คุณยายบอกว่าบางวันก็รู้สึกเกรงใจลูกค้าที่มายืนรอมาก โดยเฉพาะช่วงเดือนสามเดือนสี่ ซึ่งเป็นช่วงที่มะม่วงอร่อยที่สุด ลูกค้ามีมากจนต้องต่อแถวตากแดดกันเป็นเวลานาน คุณยายบอกว่าตนเองก็จะพยายามทำให้เร็วที่สุด แล้วก็ขายในราคาถูก เน้นรสชาติที่มาตรฐานดั้งเดิม ไม่ให้ลูกค้าที่ซื้อไปต้องผิดหวัง
เมนูเด็ดประจำร้านที่ขายดีที่สุดคือ ข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวมูนของร้านนี้จะหวานหอมกลมกล่อม เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้นแต่เป็นข้าวที่เรียงเม็ดสวย ไม่เละ ส่วนสังขยาของคุณยายจะทำมาชิ้นหนามาก ทานคู่กับหัวกะทิที่ปรุงรสมาอย่างกลมกล่อม ถ้าเป็นภาษาวัยรุ่นสมัยนี้คงจะบอกว่า ทานเข้าไปแล้วแสงพุ่งออกจากปากกันเลยทีเดียว ข้าวเหนียวมูนจะเป็นเมนูที่ขายดีที่สุดในร้าน ส่วนใหญ่ไม่เกินเวลาเที่ยงก็จะขายหมดแล้ว นอกจากนั้นก็จะมีเมนูหลายหลายที่ผลัดเปลี่ยนไปในแต่ละวัน อย่างเช่นวันที่ผู้เขียนไป ก็ได้ซื้อผัดหมี่ชมพูมาทาน นอกจากนั้นก็จะมีลอดช่องกะทิเผือก บางวันคุณยายก็จะทำขนมจีนน้ำยาน้ำพริก ลูกค้าประจำจะรู้ดีว่าวันไหนที่ตั้งใจจะมาซื้อขนมอย่างหนึ่งก็มักจะได้อีกหลาย ๆ อย่างติดมือไปด้วยเสมอ เพราะอดใจไม่ไหว
สำหรับท่านใดที่อยากจะไปอุดหนุน ”ร้านป้าวิไล ขนมหวาน” สามารถโทรสอบถามรายละเอียดก่อนไปได้ที่เบอร์ 092-920-8807