สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
“ถ่านหินลือชื่อ รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก”
“รถม้า” เป็นสัญลักษณ์หรือเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของนครลำปางซึ่งเป็นยานพาหนะในการเดินทางของยุคสมัยก่อน โดยมีที่มาจาก เดิมรถม้าเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 4 ต่อมาเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงสั่งรถม้าเข้ามาเป็นจำนวนมากเพื่อใช้เป็นรถหลวง กระทั้งรถยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาท รถม้าจึงได้ถูกกระจายออกจากกรุงเทพฯ และในช่วง พ.ศ.2458 ได้มีการวางรางรถไฟขึ้นมาจนถึงลำปาง รถม้าจึงมีบทบาทสำคัญด้วยการเป็นยานพาหนะรับส่งผู้โดยสารจากสถานีรถไฟจังหวัดลำปางเข้าสู่ตัวเมือง โดยมีรถม้าคันแรกของจังหวัดลำปางเป็นของเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง หลังจากนั้นรถม้าจึงเริ่มมีแพร่หลายทั้งในลำปางและตามเมืองหลักต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญของเทคโนโลยีการคมนาคมทำให้รถม้าค่อยๆเลือนหายไป เหลือแต่เพียงที่จังหวัดลำปางเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้าเป็นยานพาหนะอยู่มาจนปัจจุบัน และเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดลำปาง อาจกล่าวได้ว่ารถม้านั้นในปัจจุบันได้เป็นยานพาหนะสำหรับใช้เพื่อการท่องเที่ยวประจำจังหวัดลำปาง
ลักษณะทั่วไปของรถม้าในนครลำปางนั้นเป็นรถแบบเปิดประทุน ที่นั่งผู้โดยสารคล้ายคลึงกับที่นั่งของจักรยานสามล้อ แต่มีขนาดใหญ่กว่า อยู่ทางตอนหลังของที่นั่งคนบังคับ ซึ่งมีระดับสูงกว่าเล็กน้อย นั่งได้คันละไม่เกิน 4 คน สถานีรถม้าของจังหวัดลำปางอยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจภูธร อ.เมืองลำปาง บนถนนบุญวาทย์ ฝั่งเดียวกับศาลากลางจังหวัดหลังเก่า นอกจากนี้ยังมีสมาคมรถม้าที่มีสมาชิกรวมแล้วประมาณ 100 กว่าคัน ทางสมาคมจะคอยดูแลและส่งเสริมอนุรักษ์และฟื้นฟูรถม้าให้คงอยู่ และทางสมาคมก็มีการตั้งราคาค่าบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการรถม้าคือให้บริการรอบเมืองรอบใหญ่ ราคา 200 บาท เส้นทางจะผ่านแม่น้ำวัง ชมบ้านโบราณเก่าๆ สะพานแขวน และสถานที่สำคัญอีกหลายที่ ส่วนรอบเมืองรอบเล็ก ราคา 150 บาท จะใช้เส้นทางเดียวกับรอบใหญ่แต่จะวิ่งในระยะใกล้กว่า ถ้าเป็นรายชั่วโมงจะคิดชั่วโมงละ 300 บาท สามารถแวะชมวัดโบราณต่างๆ หรือสถานที่ที่ต้องการแวะชมได้ ซึ่งราคานี้เป็นราคามาตรฐาน
ฉะนั้นแล้ว “รถม้า” จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำบ้านเมืองของจังหวัดลำปาง ที่นักท่องส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวนั้นต้องได้นั่งรถม้าชมบ้านเมืองของจังหวัดลำปางที่ให้บรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่วุ่นวายวิถีชีวิตของชาวลำปางที่มีความเรียบง่าย เที่ยวชมโดยการนั่งรถม้าชมเมืองพร้อมเสียงของเกือกม้าที่ดังเป็นจังหวะของการวิ่งของม้า เสพบรรยากาศย้อนยุค