สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
สระบุรีเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งแต่โบราณ สันนิษฐานว่าตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี พุทธศักราช ๒๐๙๒ ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ การตั้งเมืองนี้สันนิษฐานว่า พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้แบ่งเขตพื้นที่บางส่วนของเมืองลพบุรีกับเมืองนครนายกมารวมกันตั้งขึ้นเป็นเมืองสระบุรี ทั้งนี้เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์ระดมพลเมืองในยามศึกสงคราม เพราะฉะนั้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา จึงมักพบเรื่องราวของจังหวัดสระบุรีเกี่ยวกับการศึกสงครามอยู่เสมอสำหรับที่มาของชื่อจังหวัด “สระบุรี” สันนิษฐานว่า เพราะเหตุที่ทำเลที่ตั้งครั้งแรกมีบึงอยู่ใกล้ คือ “บึงหนองโง้ง” เมื่อตั้งเมืองขึ้นจึงได้นำเอาคำว่า “สระ” มารวมเข้ากันกับคำว่า “บุรี” เป็นชื่อเมือง “สระบุรี” และประเพณีสมัยโบราณนิยมคือเมื่อมีการตั้งเมืองใหม่ขึ้น จะต้องมีการตั้งศาลหลักเมืองขึ้นอยู่คู่กันเสมอ เพื่อเป็นที่สิงสถิตของเทพารักษ์ประจำเมือง
ศาลหลักเมืองสระบุรีปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่ว่าการอำเภอเมืองสระบุรี (ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า) ในด้านที่ติดกับถนนพิชัยรณรงค์สงคราม บริเวณโดยรอบกว้างขวางสะอาดสะอ้าน มีที่จอดรถมากพอสมควร ตัวศาลมีลักษณะเป็นศาลาจตุรมุข มีซุ้มประตูรอบทั้งสี่ด้าน แต่มีประตูทางเข้า-ออกสามด้าน อีกด้านหนึ่งที่เหลือโบกปูนปิดทึบด้านในประดิษฐาน รูปเคารพเทพารักษ์ประจำเมืองภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองจังหวัดสระบุรี อันได้แก่ พระเสื้อเมือง , พระทรงเมือง และพระกาฬไชยศรี
พระเสื้อเมือง เป็นเทพารักษ์คุ้มครองป้องกันทั้งทางบกและทางน้ำ คุมกำลังคนทั่วไปพล แสนยากร รักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากอริราชศัตรูมารุกราน
พระทรงเมือง เป็นเทพรักษาการปกครอง และกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ให้ร่มเย็นเป็นสุขสวัสดี
พระกาฬไชยศรี เป็นบริวารพระยม มีหน้าที่นำวิญญาณของมนุษย์ผู้ทำบาปไปสู่ยมโลก
หลังคาศาลหลักเมืองตรงกลางทำเป็นยอดปรางค์สูงขึ้นไปที่ปลายยอดมีนภศูล ทำด้วยโลหะหล่อเป็นรูป 6 แฉกคล้ายปลายดาบ ระหว่างกลางแทรกด้วยแกนคล้ายปลายหอก
ภายในศาลหลักเมืองใจกลางศาลามีเสาหลักเมือง 2 เสา เสาเดิมเป็นเสาไม้ตะเคียนที่ผุผังไปตามกาลเวลามีกระจกครอบอยู่รอบด้านเพื่อการอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับชาวสระบุรีต่อไป ส่วนเสาใหม่ตั้งอยู่คู่กันเป็นเสาไม้มงคลชัยพฤกษ์ ลักษณะปลายยอดเสาหลักเมืองแกะสลักเป็นรูปดอกบัวตูม สำหรับการสักการะเสาเจ้าพ่อหลักเมืองสามารถบูชาดอกไม้ธูปเทียน ผลไม้ และผ้าสามสี จากซุ้มบริการด้านข้างศาลหลักเมืองฯ เมื่อกราบไหว้อธิษฐานขอพรเรียบร้อยแล้วสามารถนำผ้าสามสีมาผูกที่เสาหลักเมือง(องค์ใหม่) ได้เพื่อเป็นสิริมงคล ถ้าหากใครมีของที่จะนำมาถวายเพื่อ บูชาหรือเพื่อแก้บน สามารถจัดวางที่โต๊ะด้านนอกศาลฯ ได้เลย อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะคะ
เรียบเรียงโดย
นางสาวชลธิชา ใจทา