Story telling of the Thailand หมู่บ้านเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อว่าทุกคนคงรู้จัก " ช้าง " สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดใหญ่รองลงมาจากวาฬ ปัจจุบันมีเพียง 3 สปีชีส์ นั่นคือ ช้างแอฟริกา ช้างป่าแอฟริกา และช้างเอเชีย ถ้าพูดถึงช้างทุกคนคงรู้จักกันดี แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าบนโลกของเรานั้นมีหมู่บ้านเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ ซึ่งที่แห่งนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากเรานัก นั่นคือ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จังหวัดสุรินทร์นั่นเอง story telling of The Thailand วันนี้จะพาไปชมวิถีชีวิตของคนกับช้างว่าเขาอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างไร แล้วทำไมถึงต้องเลี้ยงช้างเยอะจนได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนอื่นต้องขออกตัวก่อนเลยว่าจังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดบ้านเกิดของเจ้าของโพสต์เอง ซึ่งมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้มาแบ่งปันประสบการณ์ให้ทุกคนได้ฟัง เข้าเรื่องกันเลยค่ะ ที่นี่เรียกว่า ศูนย์คชสาร แต่คนในพื้นที่ทั่วไปมักเรียกกันว่า หมู่บ้านช้าง ที่นี่คนในหมู่บ้านเกือบทุกหลังจะมีช้างเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งเลี้ยงกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายกันมานานแล้ว คนเลี้ยงช้างที่สุรินทร์เป็นชนเผ่าที่มีบรรพบุรุษเป็นคนจับช้าง มีการเลี้ยงช้างตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษในช่วงแรกๆก็เลี้ยงไว้ใช้งาน ใช้ในการทำศึกสงครามแต่พอเวลาผ่านไปช้างก็ได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวที่ปู่ย่าตายายเหลือไว้ให้ลูกหลานและมีการเลี้ยงช้างมาตั้งแต่นั้น ต่อมาก็กลายเป็นวิถีชีวิตของคนกับช้างให้เห็นในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นมรดกตกทอดกันมารุ่นต่อรุ่น คนที่นี่รักช้างของพวกเขามาก โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและเป็นสมบัติอันล้ำค่าของวงศ์ตระกูล ประเพณีท้องถิ่นของคนที่นี่มีหลายอย่างที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ ที่เห็นได้ชัดและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและไม่สามารถพบเห็นได้จากที่ไหน นั่นคือประเพณี “ บวชนาคช้าง” เป็นประเพณีพื้นบ้านอันขึ้นชื่อของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจัดขึ้นเฉพาะที่บ้านตากลาง หรือหมู่บ้านช้างแห่งนี้ที่เดียวเท่านั้น เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี แล้วการบวชนาคช้างคืออะไร หลายคนอาจสงสัย การบวชนาคช้าง ไม่ใช่การนำช้างมาบวช แต่เป็นประเพณีที่ผู้ชายในบ้านบวชโดยที่บ้านนั้นจะต้องเลี้ยงช้างจึงจะทำประเพณีบวชนาคช้างได้ และจะมีขั้นตอนพิธีกรรมตามรูปแบบของชาวกวย หรือ กูย ประเพณีนี้ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาที่เชื่อกันว่าผู้ชายทุกคนในบ้านจะต้องทำการบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ถ้าหากไปบวชที่ไหน จะถือว่าทดแทนบุญคุญไม่สำเร็จ ประเพณีนี้จึงถือว่าเป็นประเพณีที่สำคัญของทุกๆคนในหมู่บ้าน ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแห่งเดียวบนโลก ประเพณีบวชนาคช้างแตกต่างจากการบวชนาคทั่วไป เป็นเพราะคนที่นี่มีวิถีชีวิตที่ผผูกพันกับช้างมาอย่างยาวนาน และเชื่อว่าช้างเป็นสัตว์ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีบารมีมาก หากได้นั่งบนหลังช้างในวันที่บวชนาคก็จะช่วยส่งเสริมให้มีบุญบารมีมากมายนั่นเอง การมาเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้เห็นวิถีชีวิตและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของคนในหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ยังได้ทั้งความรู้และความสนุกสนานเพลิดเพลิน เพราะที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมความรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับช้าง ประวัติหมู่บ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้ทุกคนได้ไปศึกษาได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องความสนุกแน่นอนว่าเพื่อนๆจะได้รับจากการแสดงช้าง ไม่ว่าจะเป็นช้างวาดรูป ช้างเต้นรำ ช้างปาลูกโป่ง ช้างเตะฟุตบอล ช้างเล่นน้ำ อีกทั้งยังสามารถถ่ายรูปคู่กับช้างได้ และยังสามารถขี่ช้างเพื่อทัวร์ชมทั่วทั้งหมู่บ้านช้างได้อีกด้วย และมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่เกี่ยวกับความเชื่อของคนที่นี่ นั่นคือคนที่นี่ถือว่าช้างเป็นสัตว์มงคล จึงนำมาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนอย่างใกล้ชิดรวมไปถึงการลอดท้องช้างของหญิงมีครรภ์ การลอดท้องช้างเกิดจากความเชื่อที่ว่า ใครกล้าลอดท้องช้าง ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่น่าเกรงขามได้ ก็จะรอดพ้นอุปสรรคปัญหาไปได้เป็นความเชื่อมาตั้งแต่รุ่นปู่ทวดย่าทวด ว่าการลอดท้องช้างตามประเพณีนิยม จะนำพาความโชคดี สะเดาะเคราะห์ร้าย ได้อย่างปลิดทิ้ง นอกจากวัฒนธรรม ประเพณี ความสนุกเพลิดเพลิน ความรู้ และความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องช้างแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับสาย Instagrammer นั่นก็คือ Surin Project หรือ โครงการโลกของช้าง Elephant World หนึ่งเดียวในโลกของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านช้างแห่งนี้เช่นกัน เป็นสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างน้องใหม่ ที่เกิดจากความร่วมมือของรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกับงบส่วนขององค์กรบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ รวม 455 ล้านบาท เพื่อสร้างเป็นค่ายอนุรักษ์ช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ ประกอบไปด้วย อาคารลานแสดงช้าง ( Elephant Stadium ) หอชมทิวทัศน์อิฐ ( Brick Observation Tower ) พิพิธภัณฑ์ช้าง และซุ้มกำแพงทางเข้าโครงการ ลักษณะของสถาปัตยกรรมเป็นสถาปัตยกรรมจากอิฐแดงโบราณให้ความรู้สึกเหมือนพีระมิดของประเทศอียิปต์ เนื่องจากมีสีที่คล้าย บวกกับความยิ่งใหญ่อลังการของสิ่งก่อสร้าง มีความทันสมัยละคลาสสิครวมอยู่ด้วยกัน หากมาเที่ยวที่นี่แล้วรับรองว่าต้องได้รูปสวยๆกลับไปอัพลงโซเชี่ยลอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างไรแม้โลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไป เกิดการพัฒนาสิ่งก่อสร้างใหม่ๆขึ้นมาก็ไม่ทำให้วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ของคนที่นี่เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด ยังคงความเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวบนโลกที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว เรียกได้ว่ามาเที่ยวที่นี่ได้รับประสบการณ์มากมายที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องความรู้ ประวัติศาสตร์ ความตื่นเต้นจากสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ อลังการ แปลกตา ได้ยินแบบนี้แล้วอยากเก็บประเป๋าไปเที่ยวเลยใช่ไหมล่ะคะ เจ้าของโพสต์เองก็ขอฝากความภาคภูมิใจของจังหวัดสุรินทร์ หนึ่งในเมืองรองของประเทศไทย ที่รอให้เพื่อนๆได้มาสัมผัสวิถีชีวิต ค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ เยี่ยมชมความน่ารักของน้องช้าง ความสวยงามของมิตรภาพของคนในหมู่บ้านและความสวยงามของสถาปัตยกรรม และหวังว่ามากไปกว่าการเที่ยวเพื่อนๆทุกคนคงจะได้รับประสบการณ์ดีๆ และความประทับใจกลับไปกันนะคะ สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน แล้วพบกับใหม่ค่ะ

Story telling of the Thailand, The world’s largest elephant village I believed that everyone knows "elephants", the big mammals after whales. Currently, there are only 3 species: the African elephant, the African wild elephant. And Asian elephants If talking about elephants, everyone would know each other well. But how many people will know that on our planet there is the largest elephant farming village in the world? That place is not far from us, it’s located in Ban Ta Klang Elephant Village, Krapho Subdistrict, Tha Tum District, Surin Province. Why do they have to keep so many elephants and has been called the largest elephant farming village in the world? First of all, I have to banish myself that Surin is the homland And I’m so proud to be able to share the experience with you guys So let’s get along with together. This place is called the Kochasan Center, but the local people refer to call the Elephant Village. Here, almost every village has an elephant as a pet. Which has been raised since the time of grandparents for a long time and It has been raised elephants since the ancestor period, in the beginning it was raised for labor and it’s was used in wars, but over time, elephants became the family pets left by grandparents for their grandchildren and has been keeping elephants since then. Later, it became the way of life of people and elephants to see today. Which is considered a legacy for generations to come . People here love their elephants. It is considered part of the family and its a valuable treasure of the family. Many local traditions here have been passed down from their ancestors. That is obvious and unique and can not be seen from anywhere. That is the tradition "Elephant ordination" a famous local tradition of Surin Province. Which was held exclusively at Baan Ta Klang Or the elephant village, the only one place here It is a tradition that has been passed down for hundreds of years. And what is the naga elephant ordination? Many people may wonder The Ordination of Elephant Naga Not bringing an elephant to ordain But it is a tradition that men in the house ordain, where the house must keep the elephants as a pet in order to be ordained naga elephants. And there will be a ritual process according to the style of the Kuay or Kui people, this tradition is considered a tradition that it is believed that all the men in the house must be ordained to replace the merit of their parents If they go to ordain anywhere Will be considered a failure to replace the merit This tradition is considered an important tradition of everyone in the village. Which is considered to be the only unique tradition in the world .Naga ordination tradition is different from ordination general. It’s because of people here have a lifelong relationship with elephants. And believe that elephants are very sacred and charismatic animals If they could sitting on the back of an elephant on the day of the ordination of the Naga, it will help promote a lot of merit. Visiting here, in addition to seeing the unique lifestyle and traditions of the people of this village Also get both knowledge and fun Because here there is a museum that gathers all knowledge about elephants. History of the village from the past to the present Allowing everyone to fully study And for the fun, of course, you will receive from the elephant show. Whether it's a drawing elephant, a dancing elephant, an elephant throwing balloons Elephants kick football, elephants play in the water and even take pictures with elephants. And you can also ride an elephant to tour around the elephant village as well. And there is one more faith-related activity here. That is, people here consider elephants as an imposing animal. It is closely related to the way of life and culture of the people, including through the belly of the elephant. Under the elephant's belly, they belief that Who dares to pass the elephant's belly? Which can be a formidable big animal Will escape obstacles and problems as a belief since the great-great-great-great-grandfather That the traditional way of passing through the elephant's belly Will bring good luck Exorcise Completely Besides the culture, traditions, fun, enjoyment, knowledge and loveliness of these elephants That is indispensable for the Instagrammer that is Surin Project or Elephant World Project, the only one in the world of Surin Province. Which is located in this elephant village as well it’s a new building architecture This is due to the cooperation of the government allocating economic stimulus funds together with the governmental organization of Surin Province totaling 455 million baht to build the largest elephant conservation camp in the world. On an area of more than 500 rai ( 1600 * 500 square meters)that has been completed recently, including -Elephant Stadium Building -Brick Observation Tower - Elephant museum -And the facade of the entrance to the project The architecture is made from ancient red bricks, giving the impression of Egyptian pyramids. Because there are similar colors Combined with the grandeur of the buildings There is a modern and classic combined together. If you come here, you will definitely get some beautiful photos. But even though the world has changed The development of new buildings has not changed the way of life, culture and traditions of the people here. Still remains the only uniqueness in the world that cannot be found anywhere else You can say that visiting here has many different experiences. Both about knowledge history, Excitement from the grand architecture, the exotic, So what do you think about this village after red this kind of thing, feel want to pack your bags and travel right now, right? I would like to express my pride in Surin Province. One of the secondary cities of Thailand Waiting for you to experience the way of life Find new experiences Visit the cuteness of the elephants The beauty of the friendship of the people in this villagers and the beauty of the architecture. And hope that more than traveling , you will have a great experience And impressions to go back together For today, let's go bye until we meet again