สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
ในอดีตนั้นจังหวัดแพร่มีการทำสัมปทานป่าไม้ หลังการเลิกทำสัมปทานป่าไม้ ก็ทำให้มีโรงเรียนป่าไม้แพร่เกิดขึ้น โดยกรมป่าไม้ได้ตั้งกองโรงเรียนป่าไม้ขึ้น อาคารที่ใช้ทำการเรียนการสอนนั้นแต่เดิมเป็นของบริษัทอีสต์เอเชียติค จากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งได้รับสัมปทานทำไม้สักในจังหวัดแพร่ ได้เช่าพื้นที่จากรัฐบาลไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นที่ทำการของบริษัทและเป็นที่พักของผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้มอบอาคารสถานที่ให้กับกรมป่าไม้ เพื่อใช้ในกิจการของกรมป่าไม้
โรงเรียนป่าไม้แพร่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2478 โดยพระยาพนานุจร ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ในสมัยนั้น ได้จัดตั้งเป็นโรงเรียนในฐานะเป็น "กองโรงเรียนป่าไม้"เปิดทำการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 เริ่มแรกของการเปิดการสอน ทางโรงเรียนได้เปิดสอนวิชาการป่าไม้ มีหลวงวิลาสวันวิท เป็นหัวหน้ากอง ทำหน้าที่เป็นผู้สอนด้านวิชาการป่าไม้ รับนักศึกษาจำนวน 25 คน จากการสอบแข่งขันของข้าราชการกรมป่าไม้ และบุคคลภายนอกที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 8 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ แก่เจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ในระดับล่าง ตลอดจนบุคคลภายนอกที่มีความสนใจ
ปี พ.ศ. 2486 ได้เลื่อนฐานะโรงเรียนการป่าไม้เป็น วิทยาลัยวนศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ทำการสอนระดับอนุปริญญา หลักสูตร 3 ปี
ปี พ.ศ. 2499 ได้ขยายหลักสูตรเป็นปริญญาตรี 5 ปี และย้ายสถานที่ทำการสอนจากเดิม มาเป็นคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานครและต่อมาได้เปิดทำการสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาการป่าไม้ หลักสูตร 2 ปี
พ.ศ. 2536 ได้ยุติการเปิดการสอนของโรงเรียนการป่าไม้ รวมนักศึกษาของโรงเรียนทั้งสิ้น 36 รุ่น มีผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนการป่าไม้ 6,180 คน
อาคารที่ใช้ทำการเรียนการสอนมีด้วยกัน 3 หลัง
อาคารหลังที่ 1 เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น แต่เดิมนั้นอาคารหลังนี้ใช้เป็นที่ทำงานและที่พักของเจ้าหน้าที่บริษัทอีสต์เอเชียติค และเมื่อก่อตั้งเป็นโรงเรียนป่าไม้ได้ใช้เป็นอาคารสโมสรของนักศึกษาป่าไม้
อาคารหลังที่ 2 เดิมเป็นอาคารที่ทำการของบริษัทอีสต์เอเชียติค และภายหลังใช้เป็นที่ทำการของโรงเรียนป่าไม้
อาคารหลังที่ 3 เป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่บนกำแพงเมืองเก่า เดิมเป็นที่พักของผู้บริหารของบริษัทอีสต์เอเชียติค และภายหลังใช้เป็นที่พักของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนป่าไม้
ปัจจุบันโรงเรียนป่าไม้แพร่ได้หยุดทำการเรียนการสอน อาคารได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์การป่าไม้