สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
“ เมืองแพร่สวรรค์ของลานนาไทย ชื่อเวียงโกศัยแต่ครั้งโบราณกาลก่อน สวยเอยงามแท้เมืองแพร่นคร สมดั่งเป็นเมืองอมร ถิ่นสถานตำนานพระลอ ” ขึ้นต้นเนื้อเพลงเวียงโกศัย เป็นที่คุ้นหูและฝังอยู่ในความทรงจำของคนแพร่ทุกคน จากรุ่นสู่รุ่น เมื่อได้ยินเสียงเพลงนี้ คนไกลก็จะคิดถึงบ้าน คิดถึงเมืองแพร่ คิดถึงกับข้าวพื้นเมือง คิดถึงขนมจีนน้ำใส และคิดถึงความทรงจำเก่าๆและเรื่องราวของเมืองแพร่ก็ผุดขึ้นมา เลยคิดไปถึงนิยายรักอมตะของคน 3 คน บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องรักกัน 3 คน ไม่รักกันแค่ 2 คน สมัยนี้แค่คน 2 คน รักกันก็ยังฆ่ากันให้ตายได้ บางคู่เหมือความรักคือการเห็นแก่ตัว ถ้าตัวเองไม่สมหวังคนอื่นก็ต้องไม่สมหวัง แล้วนิคน 3 คนรักกัน มันเป็นไปได้ด้วยหรือ ดังนั้นจะขอเล่าถึงเรื่องอุทยานลิลิตพระลอ ได้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงโศกนาฏกรรมความรักของทั้ง 3 พระองค์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ บริเวณอุทยานยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม โดยมีพี่ๆ เป็นผู้นำเที่ยวและให้การแนะนำเป็นอย่างดีเยี่ยม ข้างทางเดินไปยังมีต้นไก่ฟ้าพญาลอ ซึ่งดอกจะมีลักษณะเหมือนไก่ เป็นไม้เลื้อย เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเข้าไปในถ้ำซึ่งจำลองเป็นถ้ำของปู่เจ้าสมิงพราย
ข้างในก็จะเป็นการเล่าเรื่องของทั้ง 3 พระองค์ตั้งแต่เริ่มต้น จนจบ ทางเทศบาลตำบลบ้านกลางจะมีการจัดงานบวงสรวงขึ้นทุกๆปี
บริเวณทางเดินไปยังถ้ำปู่เจ้าสมิงพราย สองข้างทางเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้
ต้นไก่ฟ้าพญาลอ มีลักษณะเป็นไม้เลื้อย
ดอกไก่ฟ้าพญาลอ ลักษณะดอกเหมือนไก่
จะขอเล่าถึงเรื่องราวความรักของคนสามคนนี้เกิดขึ้นที่เมืองสรอง หรือ อำเภอสอง ในปัจจุบันนั่นเอง เรื่องราวนั้นได้เริ่มมาจากการทำสงครามระหว่างเมืองสรวง และเมืองสรอง และสองเมืองนี้ก็ได้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมายาวนาน ต่อมา พระลอได้ขึ้นเป็นเจ่าเมืองสรอง พระลอเป็นชายหนุ่มรูปงาม อีกทั้งทรงความสามารถในเรื่องการรบ จึงมีชื่อเสียงกล่าวขานไปยังเมืองต่างๆ ถึงรูปโฉมอันงดงาม และ ความสามารถของพระองค์ ชื่อเสียงของ พระลอ จึงได้ยินไปถึงพระธิดาเมืองสรวง คือ พระเพื่อน – พระแพง ทั้งสองพระองค์จึงเกิดความอยากเห็นหน้า อยากรู้จัก อยากพบกับพระลอเป็นยิ่งนัก จึงขอให้พระพี่เลี้ยงของพระองค์ คือ นางรื่น – นางรวย ด้วยวัยอันใกล้เคียงกันพระพี่เลี่ยงจึงเหมือนเป็นทั้งพี่ ทั้งเพื่อนที่รู้ใจ และ รักกันยิ่งนัก ดังนั้นพระพี่เลี้ยงทั้งสองจึงทางวิธีช่วยพระธิดา โดยการขอให้ปู่เจ้าสมิงพรายใช้เวทมนต์เพื่อเรียกพระลอออกมาหาพระธิดาทั้งสอง เมื่อ พระลอต้องมนต์ของปู่เจ้าสมิงพราย ภายในใจของพระองค์จึงร้อนรุ่มเรียกร้องหาแต่พระเพื่อน- พระแพง และตัดสินใจออกจากวังเพื่อตามหาพระเพื่อน พระแพง โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจาก พ่อแม่ ของพระองค์ โดยมีพระพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนที่รู้ใจของพระองค์ คือ นายแก้ว – นายขวัญ พากันออกมาจนถึงแม่น้ำกาหลง ซึ่งพระลอทำการเสี่ยงทายถึงดวงชะตะในการเดินทาง เมื่อสิ้นคำอธิฐานแม่น้ำกลางก็กลายเป็นสีแดงเหมือนเลือด แต่ก็ไม่อาจห้ามจิตใจของพระลอได้ พระองค์ทรงออกเดินทางต่อไปทั้งๆที่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นเป็นอย่างไร ทางปู่เจ้าสมิงพรายได้ทำพิธีเพื่อช่วยให้พระเพื่อน – พระแพงได้พบกับพระลอเร็วขึ้นโดยการเนรมิตไกงามตัวหนึ่งที่มีเสียงไพเราะ และงดงามกว่าไก่ตัวอื่นใด เมื่อพระลอเห็นไก่จึงได้ตามไก่ที่งดงามตัวนั้นไป ( เป็นที่มาของคำว่าพระลอตามไก่ ) เมื่อตามไก่ตัวนั้นก็ได้เข้าไปในอุทยานในวังของพระเพื่อนพระแพง จึงได้พบกับสองพระธิดา เมื่อแรกพบกันทั้งสามพระองค์ก็เกิดความรักขึ้น เหมือนรักแรกพบ ส่วนพระพี่เลี้ยงก็ยังได้พบกับรักแรกพบด้วยเช่นกัน
พระลอได้ลักลอบเข้าไปอยู่ในพระตำหนักซึ่งเป็นที่พักของพระธิดาทั้งสอง และอยู่ร่วมกันในพระตำหนักเนิ่นนาน แต่ทว่า ความลับไม่มีในโลก เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้รู้ถึงหูพระบิดาของพระธิดาทั้งสอง เมื่อคนเป็นพ่อรู้เรื่องลูกสาว ก็โกรรธมากเพราะพระองค์ทรงรักพระธิดาทั้งสองพระองค์เป็นอย่างยิ่ง พระองค์จึงได้เรียกทั้งสามพระองค์มาพูดคุย เมื่อทั้งสามยืนยันถึงความรักที่มีต่อกัน ไม่ได้รักกันเพียงชั่วคราว แต่เป็นความรักที่จริงจัง และพร้อมที่จะรับผิดทุกอย่าง พระบิดา จึงต้องยอม และให้อภัยในการกระทำของลูก เมื่อเป็นความต้องการ และความสุขของลูก พ่อจึงให้อภัยทุกอย่าง และให้ทั้งสามพระองค์ได้อยู่ร่วมกัน เหมือนเรื่องราวจะจบลงด้วยความสุข แต่ยัง ยังไม่จบ เมื่อพระเจ้าย่าไม่ยอมให้ทั้งสามคนได้อยู่ด้วยกัน และต้องการไล่ให้พระลอออกจากเมืองสรวงไป จึงได้สั่งให้ทหารมาปิดล้อม พระลอไว้ และเกิดการต่อสู้กันขึ้น พระเจ้าย่าได้สั่งให้ทหารยิงธนูเข้าใส่พระลอ และ นายแก้วนายขวัญ เมื่อพระเพื่อน พระแพงเห็นดังนั้นจึงเอาตัวเข้ามาขวงเพื่อเป็นโล่กำบังลูกธนูให้พระลอ ทั้งสามพระองค์จึงสิ้นพระชนษ์ ในอ้อมกอดของกันและกัน เรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจและโศกเศร้าในรักแท้ของสามพระองค์
ทางเข้าถ้ำปู่เจ้าสมิงพราย
แม่น้ำกาหลง
รูปปั้นปู่เจ้าสมิงพราย
เรื่องราวจบลงด้วยความเศร้า เป็นเหมือนโศกนาฏกรรมความรักของคนสามคน ในเรื่องที่เล่ามานี้ไม่ได้สื่อถึงแต่เรื่องในความรักฉันท์ชู้สาว แต่สื่อถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ถึงพ่อแม่จะโกรรธเพียงใดเมื่อคนที่เป็นลูกทำความผิดอันยิ่งใหญ่ ที่คนอื่นๆ ไม่อาจให้อภัยได้ แต่คนที่พร้อมจะอภัยได้เสมอคือ พ่อ แม่ ซึ่งเป็นความรักอันบริสุทธิ์ เป็นรักที่ไม่มีข้อแม้ สื่อถึงความรักที่อยู่บนศักดิ์ศรี และความถูกต้องคือ พระเจ้าย่า ซึ่งพระองค์ได้ตระหนักถึงความถูกต้อง ศักดิ์ศรีของบ้านเมือง ถึงแม้จะแลกกับความสูญเสีย ก็ยอมเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของบ้านเมืองไว้ และยังสื่อถึงความรักของเพื่อน คือพระพี่เลี้ยงของพระองค์ทั้งสอง ซึ่งเป็นความรักของเพื่อนที่พร้อมจะช่วยเหลือกันในทุกเมื่อ เพื่อนรักกันโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์ เป็นความรักที่พร้อมจะเสียสละให้กันและกัน ซึ่งในยุคสมัยนี้บางคนอาจโชคดีที่เจอความรักที่สมปรารถนา แต่บางคนไม่เคยเจอแม้รักแท้จากใครเลย...