สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
หลวงพ่อสุโข วัดบึงนาราง จังหวัดพิจิตร
หลวงพ่อสุโข เป็นพระพุทธรูปโลหะสมัยสุโขทัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย นั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางไว้ที่ตัก พระหัตถ์ขวาคว่ำ ขนาดหน้าตัก กว้าง ๑ ศอก ๑๓ นิ้ว สูง ๑ ศอก ๒๒ นิ้ว สันนิฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๗๘๐ เดิมมีเรื่องเล่าว่า หลวงพ่อสุโขประดิษฐานอยู่ในสำนักสงฆ์ร้างที่หมู่บ้านเสือโฮก (บ้านดงเสือเหลือง) มีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้พยายามอัญเชิญไปไว้ที่วัดบ้านตน แต่ไม่มีใครอัญเชิญไปได้ ชาวบ้านบึงนารางจึงพร้อมใจกันไปอัญเชิญหลวงพ่อสุโขมาไว้ที่วัดบึงนารางซึ่งประสบความสำเร็จ สามารถอัญเชิญหลวงพ่อสุโขมาเป็นพระประธานในอุโบสถหลังเก่า โดยเรียกหลวงพ่อว่าหลวงพ่อทอง และมีหลวงพ่อนาค หลวงพ่อดำและพระพระพุทธรูปเก่าแก่มีหลายองค์ นับตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่อทอง (หลวงพ่อสุโข)จึงเป็นที่เคารพบูชา ที่ชาวบ้านต่างมาสักการะบูชาด้วยความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าหลวงพ่อมีพุทธานุภาพ สามารถคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ สามารถดลบันดาลให้ได้ในสิ่งที่อฐิษฐานสมปรารถนา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ทางวัดจะมีการสร้างวัตถุมงคล พระครูพิศาลจริยคุณ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันและคณะทายกจึงเห็นพร้อมกันว่าควรตั้งชื่อองค์พระประธานว่า“ หลวงพ่อสุโข ”
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ หลวงพ่อได้ถูกโจรกรรมไปจากวัด สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่ชาวบ้านเป็นที่สุด หลวงพ่อพระครูพิศาลจริยคุณจึงได้ขอความอนุเคราะห์จาก พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ สมาชิก สภาผู้แทนราษฏรจังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นให้ช่วยดำเนินการติดตาม ในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๘ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำหลวงพ่อสุโขกลับคืนมาได้ สร้างความปิติยินดีให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
หลวงพ่อพระครูพิศาลจริยคุณ เจ้าอาวาสวัดบึงนารางจึงได้จัดที่ปลอดภัยให้หลวงพ่อประดิษฐานอยู่บนศาลาการเปรียญ ท่านนายอำเภอ ดร.เทวุษย์ บริรักษ์สันติกุล จึงได้จัดทำห้องกระจกถวาย และนำพระพุทธบาทเก่าแก่ที่ชาวบ้านให้ความศรัทธาเคารพนับถือไว้ในห้องด้วย และจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นไว้บนศาลาการเปรียญด้วยเพื่อให้ประชาชนที่มาสักการะกราบไหว้บูชาหลวงพ่อสุโข และรอยพระพุทธบาท ได้มีโอกาสได้รู้จักประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านบึงนาราง และชาวบึงนาราง เป็นการกระตุ้นปลุกจิตสำนึกรักถิ่นเกิดให้แก่ผู้คนที่มาสักการะบูชา ได้เห็นรากเหง้าพื้นฐานของบรรพชนที่สร้างสมสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
๕
หลวงพ่อสุโข พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัดบึงนาราง
ลวดลายในรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ในวัดบึงนาราง
ประชาชนในหมู่บ้านนำมาถวายเพื่อจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นชาวบึงนาราง แหล่งเรียนรู้ชุมชน
โบราณวัตถุที่ประชาชนในหมู่บ้านนำมาถวายเพื่อจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นชาวบึงนาราง แหล่งเรียนรู้ชุมชนหลวงพ่อสุโข วัดบึงนาราง จังหวัดพิจิตร
หลวงพ่อสุโข เป็นพระพุทธรูปโลหะสมัยสุโขทัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย นั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางไว้ที่ตัก พระหัตถ์ขวาคว่ำ ขนาดหน้าตัก กว้าง ๑ ศอก ๑๓ นิ้ว สูง ๑ ศอก ๒๒ นิ้ว สันนิฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๗๘๐ เดิมมีเรื่องเล่าว่า หลวงพ่อสุโขประดิษฐานอยู่ในสำนักสงฆ์ร้างที่หมู่บ้านเสือโฮก (บ้านดงเสือเหลือง) มีชาวบ้านที่ทราบข่าวได้พยายามอัญเชิญไปไว้ที่วัดบ้านตน แต่ไม่มีใครอัญเชิญไปได้ ชาวบ้านบึงนารางจึงพร้อมใจกันไปอัญเชิญหลวงพ่อสุโขมาไว้ที่วัดบึงนารางซึ่งประสบความสำเร็จ สามารถอัญเชิญหลวงพ่อสุโขมาเป็นพระประธานในอุโบสถหลังเก่า โดยเรียกหลวงพ่อว่าหลวงพ่อทอง และมีหลวงพ่อนาค หลวงพ่อดำและพระพระพุทธรูปเก่าแก่มีหลายองค์ นับตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่อทอง (หลวงพ่อสุโข)จึงเป็นที่เคารพบูชา ที่ชาวบ้านต่างมาสักการะบูชาด้วยความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าหลวงพ่อมีพุทธานุภาพ สามารถคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ สามารถดลบันดาลให้ได้ในสิ่งที่อฐิษฐานสมปรารถนา ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ทางวัดจะมีการสร้างวัตถุมงคล พระครูพิศาลจริยคุณ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันและคณะทายกจึงเห็นพร้อมกันว่าควรตั้งชื่อองค์พระประธานว่า“ หลวงพ่อสุโข ”
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ หลวงพ่อได้ถูกโจรกรรมไปจากวัด สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่ชาวบ้านเป็นที่สุด หลวงพ่อพระครูพิศาลจริยคุณจึงได้ขอความอนุเคราะห์จาก พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ สมาชิก สภาผู้แทนราษฏรจังหวัดพิจิตร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นให้ช่วยดำเนินการติดตาม ในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๘ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำหลวงพ่อสุโขกลับคืนมาได้ สร้างความปิติยินดีให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
หลวงพ่อพระครูพิศาลจริยคุณ เจ้าอาวาสวัดบึงนารางจึงได้จัดที่ปลอดภัยให้หลวงพ่อประดิษฐานอยู่บนศาลาการเปรียญ ท่านนายอำเภอ ดร.เทวุษย์ บริรักษ์สันติกุล จึงได้จัดทำห้องกระจกถวาย และนำพระพุทธบาทเก่าแก่ที่ชาวบ้านให้ความศรัทธาเคารพนับถือไว้ในห้องด้วย และจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นไว้บนศาลาการเปรียญด้วยเพื่อให้ประชาชนที่มาสักการะกราบไหว้บูชาหลวงพ่อสุโข และรอยพระพุทธบาท ได้มีโอกาสได้รู้จักประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านบึงนาราง และชาวบึงนาราง เป็นการกระตุ้นปลุกจิตสำนึกรักถิ่นเกิดให้แก่ผู้คนที่มาสักการะบูชา ได้เห็นรากเหง้าพื้นฐานของบรรพชนที่สร้างสมสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
๕
หลวงพ่อสุโข พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัดบึงนาราง
ลวดลายในรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ในวัดบึงนาราง
ประชาชนในหมู่บ้านนำมาถวายเพื่อจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นชาวบึงนาราง แหล่งเรียนรู้ชุมชน
โบราณวัตถุที่ประชาชนในหมู่บ้านนำมาถวายเพื่อจัดทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นชาวบึงนาราง แหล่งเรียนรู้ชุมชน
หลวงพ่อสุโข วัดบึงนาราง จังหวัดพิจิตร