คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
Instructions for use
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

Back

ศาสนาคริสต์เชียงราย

โบสถ์คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย

         ตามประวัติโบสถ์คริสตจักรที่ 1 เวียงได้รับสถาปนาเป็นคริสตจักร เมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1890โดยไม่มีการก่อสร้างอาคารพระวิหารใช้ในการนมัสการตามสถานที่ต่างๆ จากบันทึกบางตอนของนายแพทย์วิลเลี่ยม เอ. บริกส์ (William A. Briggs) มีความว่า“พวกเราต้องการ พระวิหารที่ไม่เพียงแต่จะอำนวยความสะดวกให้แก่สมาชิกเท่านั้น แต่จะเป็นอาคารถาวรของคริสตจักร และเป็นหน้าตาของเมืองเชียงราย

         ในปี ค.ศ. 1910 – 1911 นายแพทย์วิลเลี่ยม เอ บริกส์ จึงรวบรวมเงินจากผู้ศรัทธาถวายได้เงินจำนวนหนึ่ง เพื่อซื้อที่ดินสร้างอาคารพระวิหาร ตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองเชียงราย ที่เรียกว่า “ประตูสลี” ซึ่งเป็นที่ตั้งคริตสจักรในปัจจุบัน เป็นเงิน 854.86 บาท มีการเตรียมการก่อสร้างรากฐานอาคารโบสถ์ ได้ดำเนินการก่อสร้างไปช่วงหนึ่งจึงหยุดเพราะขาดงบประมาณ ต่อมาใน ปี ค.ศ. 1914ได้รับเงินสนับสนุนจากคริสตจักรโอเวอร์บรุ๊ค รัฐเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อก่อสร้าง เป็นเงิน 4,000 เหรียญ และได้จัดพิธีวางศิลาหัวมุมโดยศาสดาจารย์ ดับเบิ้ลยู.ซี.ดอร์ด ในวันที่ 31สิงหาคม ค.ศ. 1914 นายแพทย์วิลเลี่ยม เอ. บริกส์ มิชชันนารีคนสำคัญที่ทำประโยชน์ให้แก่เมืองเชียงรายมากมาย เช่น การก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คโรงเรียนและบ้านพักมิชชันนารี ตลอดจนศาลากลางและเรือนจำประจำจังหวัดเชียงราย ซึ่งหากพิจารณารายชื่อผู้เกี่ยวข้องท่านอื่นๆ ที่ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดตั้งแต่หัวหน้าควบคุมงานก่อสร้างไปจนถึงลูกมือช่างปูน ก็อาจพบได้ว่าลูกหลานของหลายท่านที่ถูกระบุชื่อไว้ ยังคงมีส่วนร่วมดูแลคริสตจักรแห่งนี้เสมอมาหลังจากบรรพบุรุษได้อุทิศแรงกายแรงใจในการก่อสร้างโบสถ์หลังนี้ขึ้นมาด้วยความอุตสาหะ

         โบสถ์หลังนี้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อสิ้นสุดมหาสงครามเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) ราวปี ค.ศ. 1946 หลังชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากถูกยึดใช้เป็นส่วนหนึ่งของเขตทหารที่มาตั้งมั่นอยู่ในเมืองเชียงราย และพวกมิชชันนารีจำต้องออกนอกประเทศไทย เหตุการณ์ช่วงสงครามนั้นนับเป็นเวลายากลำบากสำหรับเหล่าคริสเตียนในการหาพื้นที่สำหรับนมัสการพระผู้เป็นเจ้า ด้วยต้องคอยหลบซ่อนกระทำการตามบ้านพักของสมาชิก เพราะทางการเข้มงวดเรื่องการประชุม เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายและจารกรรม เมื่อเสร็จสงครามจึงยินดีกันยิ่งนักที่ได้กลับมาใช้โบสถ์นี้เป็นที่นมัสการอีกครั้ง

4,106 views

0

share

Museum in Chiang Rai

11 August 2018
6,878
635
21 June 2022
16,285
638
30 April 2019
7,774
708
09 February 2023
12,031
684
30 April 2019
6,750
661
19 June 2019
6,898
695
06 November 2019
5,549
241
27 November 2019
19,897
264