สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
สำนักสงฆ์วัดวังเตาราง สถานปฏิบัติธรรมแสนวิจิตรตระการตาที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและทุ่งปศุสัตว์ ที่ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ UNSEEN สุด ๆ เพราะแม้กระทั่งคนสระบุรีเองก็แทบจะไม่รู้เลยว่ามีวัดที่พัฒนาขึ้นมาได้สวยงามขนาดนี้ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองสระบุรี ระยะทางเพียงแค่สิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น
วัดวังเตาราง หรือสำนักสงฆ์วัดวังเตารางเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกวิเวก บำเพ็ญบารมี ต้องการบวชชีพรามหณ์ หรือมาถือศีล ปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิตก็ทำได้ แม่ชีบอกว่าทางวัดยินดีต้อนรับทุกคน
ความสวยงามของวัดวังเตารางมีความโดดเด่นในเรื่องของการ “คุมโทน” ศาสนสถานและศาสนวัตถุเกือบทั้งหมดสร้างเป็นสีขาวล้วน ปกคลุมสถาปัตยกรรมภายนอกด้วยศิลปะปูนปั้นลายไทยที่มีความละเอียด อ่อนช้อยและแฝงไปด้วยการนำเสนอตัวละครจากนิทานพื้นบ้านหรือตำนานวรรณคดีไทย
เมื่อเข้ามาถึงด้านในตัววัดจะพบกับพระวิหารสีขาวที่มีฐานเป็นทรงเรือไทยโบราณ หัวเรือแกะสลักเป็นรูปสุพรรณหงส์ได้ละเอียดอ่อนช้อย สวยงามยื่นแหลมออกมาด้านหน้า ส่วนตัวเรือรองรับพระวิหารไว้ทั้งหลังเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว ตัวพระวิหารแกะสลักลายไทยทั้งหลัง หลังคาประดับนาคสะดุ้ง ภานในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธชินราชเป็นองค์พระประทาน
ถัดจากพระวิหารมาทางซ้ายมือ เป็นอาคารสำหรับทำวัตรสวดมนต์ ด้านในตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนัง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประเพณีพื้นบ้านของไทยในแต่ละพื้นที่ เช่น การปั่นด้านทอผ้า ประเพณีชิงเปรต การละเล่นหนังตะลุง เป็นต้น
ด้านขวามือของพระวิหารเป็นกุฏิสำหรับแม่ชีที่มาปฏิบัติธรรมที่วัด ภายนอกอาคารแกะสลักลายไทยทั้งหมดเช่นเคย ด้านหน้าอาคารประดับด้วยเสาห้าต้น ความพิเศษคือที่เสาแต่ละต้นประดับไปด้วยปูนปั้นรูป “นาคปักษี” สัตว์ในตำนานแห่งป่าหิมพานต์ มีลักษณะคือใบหน้าและลำตัวเป็นมนุษย์สวมชฎารูปเศียรพญานาคบนหัว ช่วงล่างเป็นนกมีปีกสยายออกไปด้านข้าง และมีหางงูหรือหางพญานาคอยู่ด้านหลังยาวออกไป หางพญานาคนี้เลื้อยขดขึ้นไปตามความยาวของเสา รูปปั้น “นาคปักษี” นี้ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ประจำวัดวังเตารางเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุที่มีการแกะสลักประดับไว้แทบจะทุกพื้นที่ของทางวัด ด้วยอิริยาบถต่างกัน
ด้านหลังพระวิหารเป็นศาลาสำหรับทำบุญไหว้พระ ถวายปัจจัย เติมน้ำมันตะเกียง ไหว้พระประจำวันเกิด
ด้านในสุดของตัววัดมีอาคารอีกหลังหนึ่ง ชื่อว่าศาลาวุฒิธรรม บ่อน้ำด้านหน้าอาคารมีรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผมอยู่กลางน้ำ รอบ ๆ ขอบบ่อประดับไปด้วยลำตัวของพญานาคเช่นเคย โดยมีนาคสองตัวชูคอคู่กันอยู่ตรงกลางแล้วขนดหางเลื้อยตามขอบบ่อไป ภายในศาลาประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรณ์ หรือองค์พระแก้วมรกตจำลองเป็นพระประธาน อาคารหลังนี้ตกแต่งด้วยวัสดุที่หลากหลายกว่าอาคารอื่น ๆ มีทั้งพื้นหินอ่อนที่ทำสัญลักษณ์สวยงามแปลกตา หลังคาเป็นช่อง ๆ เขียนภาพจักรวาล ห้อยตุงคล้าย ๆ กับวัดไทใหญ่
ออกมาจากศาลาวุฒิธรรมจะพบกับเสาบัวขนาดใหญ่สีขาวแกมทอง ด้านบนเป็นดอกบัวบานมีพระพุทธรูปอยู่กลางดอกบัว ที่ฐานเสาล้อมรอบด้วยรูปปั้นนาคปักษีเช่นเคย
ทางวัดยังมีการก่อสร้างและพัฒนาวัดอยู่เรื่อย ๆ เป็นที่น่าติดตามในตอนที่เสร็จสมบูรณ์แล้วว่าจะสวยงามแค่ไหน หากใครมีโอกาสผ่านไปทางถนนเส้น บ้านนา-แก่งคอย อย่าลืมแวะไปไหว้พระทำบุญ ชมความสวยงามของวัดไทยแห่งนี้นะคะ
เรียบเรียงโดย
นางสาวชลธิชา ใจทา