สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
ฤดูหนาวของทุก ๆ ปีในประเทศไทย นอกจากจะเป็นฤดูกาลที่คึกคัก รื่นเริง พากันเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ช่วงสิ้นปีแล้ว ยังเป็นฤดูกาลที่มีบรรยากาศแห่งความโรแมนติกและอบอุ่นในหัวใจอย่างน่าประหลาด ด้วยสภาพอากาศที่เย็นสบาย ผู้คนออกมารวมตัวทำกิจกรรมกลางแจ้งกันมากขึ้น เพราะถึงแม้จะมีแสงแดดแผดจ้าอยู่เช่นเดิม แต่อุณหภูมิกลับลดต่ำลงเป็นความลงตัวที่ธรรมชาติรังสรรค์มาให้เราได้สัมผัสกันชั่วระยะเวลาไม่กี่เดือนในหนึ่งรอบปี
เสน่ห์ของฤดูหนาวยังเพิ่มพูนขึ้นได้อีกเมื่อผนวกรวมกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ เทือกเขา ลำเนาไพร ความหนาวเย็นส่งผลให้พืชพรรณหลายชนิดเติบโตงดงามขึ้นเมื่อถึงฤดูกาลของมัน โดยเฉพาะไม้ดอกเมืองหนาวที่มักจะพบเห็นว่าพากันเติบโต ชูช่อ ผลิบานสะพรั่งอวดโฉมกันอย่างไม่ยอมน้อยหน้า เมื่อผนวกรวมกับละอองหมอกที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงใกล้ค่ำที่อากาศเย็นลง ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามราวกับอยู่ภาพฝันเลยทีเดียว
จังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดที่อุดมด้วยป่าไม้ ธรรมชาติที่งดงาม แหล่งของกินของฝากคุณภาพดี จึงไม่แปลกที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวในทุก ๆ ฤดูกาล สำหรับในช่วงฤดูหนาวนี้ จังหวัดสระบุรีมีหลายกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น การแคมปิ้งริมแม่น้ำป่าสักหรือจะท่องเที่ยวตามเส้นทางธรรมชาติในเขตอุทยาน เที่ยวสวนผลไม้เมืองหนาว และไฮไลท์ก็คือ ชมทุ่งดอกไม้ กว้างใหญ่สวยงามที่มีอยู่มากมายหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นทุ่งทานตะวัน ทุ่งดอกเบญจมาศ ฯลฯ สำหรับวันนี้ผู้เขียนได้นำเรื่องราวของทุ่งดอกไม้แห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรีมานำเสนอ เนื่องจากพบว่าเป็นทุ่งดอกไม้ชนิดที่หาได้ยากในประเทศไทย และประวัติความเป็นมาของทุ่งดอกไม้นี้ก็มีเรื่องราวที่มาที่ลึกซึ้งน่าประทับใจ จนอยากจะมาแบ่งปันกับทุกท่าน ณ ที่นี้ “ทุ่งสิริสมัย ทุ่งคอสมอสแห่งความกตัญญู” ตั้งอยู่ที่เชิงเขาพระพุทธบาทน้อย ตำบล สองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นทุ่งดอกคอสมอสกว้างใหญ่ กินเนื้อที่หลายไร่ ที่เปิดให้เข้าชมฟรี และดำเนินการปลูกโดยกลุ่มจิตอาสา ของเตโชวิปัสสนาสถาน ดอกคอสมอส หรือดอกดาวกระจายเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนของอเมริกา เม็กซิโก และเวสต์อินดีส การจะนำมาปลูกในบ้านเรานั้นทำได้ยากและต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ แต่ข้อดีคือเป็นดอกไม้ที่มีหลากสีทั้ง ม่วงเข้ม ม่วงอ่อน ชมพู เมื่อเติบโตดอกจะบานพร้อมกัน ยิ่งมีพื้นที่ปลูกกว้างเท่าไหร่ ทุ่งคอสมอสจะยิ่งมีสีสันสดใส สวยงามน่าประทับใจมากเท่านั้น
โดยประวัติความเป็นมาของ “ทุ่งสิริสมัย” ผู้เขียนได้ค้นพบจาก เฟสบุ๊คแฟนเพจ ทางการของทุ่งสิริสมัยระบุไว้ดังนี้ “ทุ่งสิริสมัย มีจุดเริ่มต้นจากจิตกตัญญของคุณสมัยและคุณดารณี สีโท ที่ได้ริเริ่มปลูกดอกคอสมอสหรือดอกดาวกระจาย ในช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาคมปี 2560 ในบริเวณที่ดินของเตโชวิปัสสนาสถาน เพื่อให้ท่านอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ผู้เป็นวิปัสสนาจารย์แห่งสายธรรมเตโชวิปัสสนา มีความสดชื่นเบิกบาน หลังจากที่กรำงานหนักมาตลอดทั้งปี ในเวลานั้นเป็นช่วงที่มีงานภาวนาเพื่อแผ่นดิน อันเป็นการ
รวบรวมนักภาวนาจากหลากหลายสายธรรมจำนวนกว่า 1,500 ชีวิตร่วมปฏิบัติภาวนาและอุทิศผลบุญทั้งหมดเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ต่อมาเมื่อคุณสมัย สีโทจากไปท่านอาจารย์อัจฉราวดีได้ตั้งชื่อทุ่งดอกไม้แห่งนี้ว่า "ทุ่งสิริสมัย” เพื่อรำลึกถึงคุณงาม ความดีและจิตกตัญญูอันแนบแน่นของคุณสมัยที่มีต่อท่านอาจารย์
การปลูกดอกคอสมอสใช้งบประมาณสูง ทั้งการวางระบบน้ำ เพาะเมล็ดพันธุ์ การเตรียมหน้าดิน มี ขั้นตอนการปลูกที่ต้องดูแลรดน้ำและใส่ปุ๋ยอย่างใกล้ชิด ครอบครัวสีโท กัลยาณมิตรและเหล่าศิษย์ร่วมสายธรรมได้สืบสานเจตนารมย์ของคุณสมัย โดยตั้งใจปลูกและดูแลทุ่งสิริสมัยให้บานสะพรั่งต่อไปในทุก ๆ ปี
ด้วยปกติทุ่งดอกไม้ที่มีบรรยากาศสวยงามโดยส่วนมากมักจะอยู่ห่างไกล ต้องใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ท่านอาจารย์อัจฉราวดีจึงมีดำริให้ พัฒนาสวนดอกคอสมอสกว่า 80,000 ต้น กินพื้นที่ราว 5 ไร่นี้ โดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาที่งดงามให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฤดูหนาวของจังหวัดสระบุรี เพื่อตอบแทนคุณของชุมชนที่ร่วมกันอนุรักษ์เขาหินปูน พระพุทธบาทน้อยให้เป็นพื้นที่เขตป่าชุมชนลูกสุดท้าย ที่รอดพ้นจากการถูกขายไประเบิดทำเป็นผงปูน อันเป็นภาพที่ชนสายตาตามสองข้างทาง จนสายธรรมเตโชวิปัสสนาได้มีที่ตั้งอยู่อย่างสงบ สง่างามและมีความตระการตาเช่นทุกวันนี้
ท่านอาจารย์ปรารถนาจะแบ่งปันความสุขความชื่นใจเพื่อตอบแทนชาวบ้านและคนสระบุรีจึงดำริ ให้เปิดทุ่งแก่สาธารณะเพื่อการพักผ่อนโดยไม่มีค่า เข้าชมพร้อมกับตกแต่งบรรยากาศโดยรอบให้เหมาะแก่การเป็นที่หย่อนใจของผู้มาเยือน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้แก่ชุมชน เทือกเขาพระพุทธบาทน้อยแห่งนี้อีกทางหนึ่งด้วย”
นอกจากชมทุ่งดอกไม้แล้วยังสามารถเลือกซื้อต้นคอสมอส ต้นไม้ดอก และผักสวนครัวหลายอย่างกลับไปลงดินเองได้ที่ร้านต้นไม้ด้านหน้าทางเข้า เมื่อเดินผ่านจุดคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาภายในลานกว้างก่อนถึงทุ่งดอกไม้จะพบกับร้านค้า “ตลาดนัดชุมชน” ด้านขวามือจะเป็นคาเฟ่ของทุ่งสิริสมัย ที่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ของทานเล่นและของที่ระลึกมากมาย ที่พลาดไม่ได้คือ ชาอังกฤษแท้ ๆ เสิร์ฟพร้อมกับขนมอบสดใหม่ทุกวัน รสชาติหอมหวาน กลมกล่อม นั่งทานของว่างไปพร้อมกับวิวทุ่งคอสมอส และเขาพระพุทธบาทน้อย อิ่มทั้งกาย อิ่มทั้งใจกันไปเลย
ข้อสำคัญที่สุดคือในแต่ละปี ทุ่งสิริสมัยจะเปิดให้เข้าชมเพียงไม่กี่สัปดาห์ในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคมเท่านั้น ระยะเวลาแปรผันตามการเบ่งบานของดอกคอสมอสนั่นเอง เมื่อดอกคอสมอสเริ่มร่วงโรยก็จะปิดทุ่ง เพื่อดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการภาวนาสมาธิตามปกติเดิม ดังนั้นก่อนจะไปเที่ยวชมต้องติดตามข่าวสารจากเพจ ทุ่งสิริสมัย เสียก่อนออกเดินทางจะได้ไม่เสียเที่ยว
เรียบเรียงโดย
นางสาวชลธิชา ใจทา