คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

ย้อนกลับ

วัดถ้ำดาวเขาแก้ว

     วัดถ้ำดาวเขาแก้ว หรือสำนักสงฆ์ถ้ำดาวเขาแก้ว เป็นอีกวัดที่มีความสวยงามใกล้ชิดกับธรรมชาติและมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว วัดถ้ำดาวเขาแก้วอยู่ที่  ตำบลลำพญากลาง อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ไกลจากตัวเมืองสระบุรีพอสมควรประมาณ 80 กิโลเมตรเศษ ๆ ใกล้กับสวนดอกไม้บิ๊กเต้ สวนดอกเบญจมาศชื่อดังของอำเภอมวกเหล็ก สำหรับความเป็นมาของวัดค้นคว้ามาได้อย่างคร่าว ๆ ว่าในอดีตมีหญิงสองนางคือแม่ละอองเกตุ กับ แม่ละอองแก้ว ได้ไปนิมนต์พระสงฆ์รูปหนึ่งทางนิมิตให้มาเปิดถ้ำและสร้างวัดถ้ำดาวเขาแก้วนี้ขึ้น ที่ได้ชื่อว่าวัดถ้ำดาวเขาแก้วนั้นน่าจะมาจากผนังถ้ำมีเกล็ดแก้วประกายส่องแสงระยิบระยับอยู่ทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่บนพื้นผิวของหินงอก หินย้อยรูปร่างแปลกตาทั้งหลายภายในถ้ำ ที่เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ที่ส่องลอดเข้ามาจะเกิดประกายแวววาวล้อเล่นกับแสงไฟสวยงามมากทีเดียว หรือในพื้นที่อับแสงเช่นบนเพดานถ้ำบางส่วนเมื่อส่องไฟฉายขึ้นไปก็จะพบกับแสงแก้วระยิบระยับสวยงามไม่แพ้กัน

     เมื่อเดินทางไปถึงวัดพบว่ากำลังมีการก่อสร้างและพัฒนาพื้นที่หลาย ๆ โซน วัดถูกล้อมรอบด้วยทุ่งนาและปศุสัตว์ของชาวบ้าน ภายในบริเวณวัดมีลานกว้างที่ประดิษฐานรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธ์มากมายให้กราบไหว้ขอพร ทั้ง รูปปั้นองค์พระพิฆเนศ พระยายมราช พระแม่ธรณีบีบมวยผม เป็นต้น เมื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านล่างเสร็จแล้วก็ได้เวลาเข้าไปชม “ถ้ำดาวเขาแก้ว” บันไดทางขึ้นไปยังปากถ้ำค่อนข้างสูงชัน มีขั้นบันไดประมาณ 174 ขั้น แต่ทางวัดจัดสร้างบันไดได้มั่นคงแข็งแรงเป็นบันไดปูน ราวบันไดทั้งสองข้างมีรูปปั้นพญานาคเลื้อยขดลงมาจนถึงด้านล่าง ส่วนหางทอดยาวขึ้นด้านบนสู่ปากถ้ำ ราวทางด้านซ้ายมือมีรูปปั้นพระภิกษุขนาบข้างไปเรื่อยจนสุดทาง เมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านบน จะต้องแวะกราบสักการะที่ศาลแม่ละอองเกตุ แม่ละอองแก้ว ผู้ปกปักษ์รักษา คุ้มครองบริเวณปากถ้ำนี้เสียก่อนและขอให้ท่านอำนวยอวยพรให้พวกเราโชคดี ปลอดภัย จากการเข้าไปเยี่ยมชมภายในถ้ำ ว่ากันว่าศาลแม่ละอองเกตุ แม่ละอองแก้วนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง มักจะพากันมาขอพรให้ทำมาค้าขึ้น ขอโชคลาภเงินทองจากท่านทั้งสองอยู่เป็นประจำ

     เดินเท้าเข้าสู่ภายในตัวถ้ำสิ่งแรกที่สังเกตเห็นคือประกายระยิบระยับบนผนังถ้ำที่สวยงามสมความร่ำลือ โถงถ้ำแรกที่เจอนั้นกว้างขวาง มีช่องโหว่บนเพดานถ้ำทำให้มีแสงส่องสว่างลงมายังบริเวณนี้เป็นพิเศษ ตรงจุดแสงส่องนี้ประดิษฐานรูปปั้นองค์พญาอนันตนาคราชและพระนางอุษาอนันตวดี มเหสีเอกของพระองค์ มีทั้งรูปปั้นปางพญานาคคู่กันอยู่ด้านหลังและปางมนุษย์คู่กันอยู่ด้านหน้า มีความสง่างามน่าเกรงขามสมบารมีมากเลยทีเดียว ลึกเข้าไปภายในถ้ำบางส่วนมืดและแคบ บางส่วนก็กว้างขวางแบ่งออกเป็นห้อง ๆ หนึ่งได้เลย เมื่อเดินสำรวจภายในถ้ำพบว่ามีรูปปั้นของพญาอนันตนาคราชกระจายอยู่ทั่วไปนับจำนวนไม่ถ้วน เกิดความสงสัยว่าเหตุใดถ้ำแห่งนี้จึงเกี่ยวโยงกับพญานาคจึงได้สอบถามไปยังคนท้องถิ่นแถวนั้น ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่าด้านซ้ายมือจากปากทางเข้าถ้ำมีถ้ำลึกลับถ้ำหนึ่งซ่อนตัวอยู่ ถ้ำแห่งนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าถ้ำงู เนื่องจากว่าสมัยก่อนมีงูอยู่ชุกชุม ภายในถ้ำมีแท่งหินอันหนึ่งที่ลักษณะคล้ายงูใหญ่ ตามตำนานเล่าว่าพญางูใหญ่ตนหนึ่งได้ขึ้นมาคายแก้วมณีและสละร่างกาย กลายเป็นแท่งหินนั้นเฝ้าปกปักษ์รักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายภายในถ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กไหล แก้วมณีที่ฝังอยู่บนผนังถ้ำหรือธรณีสาร เป็นต้น แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็มักจะพบบรรดา อุรคาหรืองู เลื้อยเข้ามาอาศัยอยู่ตามมุมต่าง ๆ ในถ้ำเป็นประจำ เรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งก็คือ พระสงฆ์ที่แม่ละอองเกตุ แม่ละอองแก้วได้นิมนต์ทางนิมิตให้มาเปิดถ้ำนี้ขึ้น ท่านได้เข้านั่งวิปัสสนาและนิมิตเห็น  องค์พญาอนันตนาคราช ราชาผู้ครองเมืองบาดาลปรากฏกายขึ้น จึงเป็นที่มาของรูปเคารพพญานาคทั้งหลายในถ้ำนี้ เดินลึกเข้าไปด้านหลังแผงหินงอกหินย้อยจะพบกับลานวิปัสสนา มีพระพุทธรูปให้กราบสักการะ

     ภายในถ้ำอากาศค่อนข้างเย็นและมีทางเดินลึกเข้าไปพอสมควร แต่ละจุดจะมีหินงอกหินย้อยและผนังถ้ำสวยงามให้ได้ชมกัน ใช้เวลาเดินสำรวจเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่ละจุดจะมีสิ่งศักดิ์ให้กราบสักการะไปตลอด เมื่อออกจากถ้ำมาแล้วสามารถนั่งพักผ่อนชมวิวธรรมชาติได้รอบ ๆ บริเวณวัด ด้านล่างตรงเชิงบันไดมีร้านค้าจำหน่ายน้ำดื่ม และขนมพร้อมมุมนั่งเล่น และห้องน้ำไว้บริการ

เรียบเรียงโดย

                                                                                                                                 นายนิติกรณ์ สุขสบาย

 

19,242 views

0

แบ่งปัน