คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

ย้อนกลับ

ไปดูมด ดูปลา ดูนา ที่บางเขน

เมื่อสถานการณ์หลังคลายล็อคจากโควิด-19 ดีขึ้น ถือเป็นช่วงเวลาที่หลายคนได้ออกไปเที่ยวแบบ New Normal กันบ้างแล้ว  Museum Thailand จะพาไป One Day Trip ที่ “บางเขน” ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่บางเขนยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งให้ตามไปเช็คอินกัน

 

ปักหมุดแรก ณ “พิพิธภัณฑ์มด” เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับมดแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก ตั้งอยู่ชั้น 2 ตึกวินิจวนันดร คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อขึ้นไปถึงส่วนจัดแสดงบริเวณโถงด้านหน้าจะพบหุ่นจำลองของ รศ.ดร.เดชา วิวัฒน์วิทยา หรืออาจารย์เดชา ผู้ศึกษาเรื่องราวมดตัวจิ๋ว ซึ่งได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนทุนจากประเทศญี่ปุ่นในการเก็บรวบรวม “มด” ทั้งในและต่างประเทศมาทำเป็นคอลเล็กชั่นสำหรับผู้ต้องการศึกษาวิจัย และต่อมาได้นำงานวิจัยมาย่อยให้เป็นข้อมูลสำหรับผู้เข้าชมทั่วไปให้เข้าใจง่ายขึ้น

“มด” ถูกนำมาบอกเล่าเรื่องราวผ่านการจัดแสดงเป็น 4 ส่วน คือ มหัศจรรย์แห่งมด , สายใยสัมพันธ์แห่งมด คุณค่าอนันต์แห่งมด และชีวิตอัศจรรย์แห่งมด โดยจะบอกเล่าตั้งแต่เรื่องต้นกำเนิดของมด ร่างกายของมด ความแตกต่างของมดกับแมลงทั่วไป อาหารของมด ความสัมพันธ์ระหว่างมดกับมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันมานาน, มดกับสิ่งแวดล้อม, มดกับพืชที่พึ่งพาอาศัยกัน และมดกับสัตว์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการนำมดสายพันธุ์ต่างๆ มาให้ศึกษาและส่องดูอย่างใกล้ชิดด้วย “แว่นขยายมด” ทำให้เราเห็นคอลเล็กชั่นมดชัดมากยิ่งขึ้นและตอกย้ำความตัวจิ๋วแต่ฤทธิ์เยอะของเจ้ามดพวกนี้ ** พิพิธภัณฑ์มด สามารถถ่ายรูปได้อย่างอิสระเต็มที่ มีจุดแลนมาร์คห้ามพลาด คือ “เจ้ามดแดงยักษ์” ตั้งอยู่กลางห้องจัดแสดงห้องแรกนะจ๊ะ **

พิพิธภัณฑ์มดจัดแสดงภายใต้แนวคิด “เพื่อคนทุกเพศทุกวัย เน้นความเป็นสากลและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” จึงได้นำลักษณะเด่นของมดมาเชื่อมโยงกับการสอนปลูกฝังจริยธรรมให้แก่เด็กเยาวชนและผู้ที่เข้ามาเรียนรู้ อาทิ เรื่องความขยัน มีวินัย ความสามัคคี และรักความสงบ นอกจากนี้ ยังแฝงความน่ารักอยู่แทบทุกจุด เช่น พื้นจะแปะสติ๊กเกอร์เป็นรูปมดนำทางเราไปจนถึงห้องจัดแสดง หรือบนฝาผนังแสดงผลงานวาดรูปจากน้องๆ ประดับอยู่ เป็นต้น

 

พิพิธภัณฑ์มดเปิดให้เข้าชมฟรี วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 16.00 น. (ปิดทำการวันเสาร์และวันอาทิตย์) หากใครสนใจเข้าชมแนะนำประสานงานกับเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ก่อน (คุณฟัก 080-4571826) เพื่อให้มาเปิดประตูและเป็นวิทยากรให้ข้อมูล เนื่องจากพิพิธภัณฑ์มดดูแลโดยอาสาสมัครที่เป็นนักศึกษาคณะวนศาสตร์ ทำให้พิพิธภัณฑ์ไม่สามารถเปิดได้ตลอดเวลานั่นเองจ้า

หลังจากรู้จักเจ้ามดจิ๋วแล้วก็มาปรับอารมณ์ให้เคลื่อนไหวไปกับเจ้าปลาน้อยกันดีกว่ากับ ปักหมุดที่ 2 คือ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดกรุงเทพฯ” เป็นสถานแสดงสัตว์น้ำแห่งแรกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในกรมประมง ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบเจ้าเต่ามารอต้อนรับ ในส่วนการจัดแสดง แบ่งเป็น 2 ชั้น คือ ชั้น 1 เป็นบ่อสัตว์น้ำแบบเปิด พืชน้ำจืด และฟอสซิลของปลากระโห้ขนาดใหญ่ โดยมีป้ายแสดงข้อมูลของสัตว์น้ำอยู่เหนือตู้ปลาขนาบทั้ง 2 ข้าง โค้งไปตามตามทางเดินอย่างเพลิดเพลิน

 

ชั้น 2 จะจัดแสดงปลาท้องถิ่นหายากของประเทศไทย ปลาสายพันธุ์ต่างประเทศ และปลาที่มีลักษณะสวยงาม ปลาเหล่านี้เมื่อเห็นผู้เข้าชมก็พร้อมจะต้อนรับแขกเสมือนถูกฝึกมาอย่างดีด้วยการออกมาทักทายและว่ายวนโพสต์ท่าอยู่หน้าตู้ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ **สำหรับพระเอกและนางเอกของสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำกรุงเทพฯ ได้แก่ ปลาเทพาขนาดใหญ่เกือบ 3 เมตร และปลาตะพัด ปลาสายพันธุ์ไทยที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว

 

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดกรุงเทพฯ เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 น. – 16.00 น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ราคา 20 บาท , เด็ก/นักเรียน/นักศึกษา 10 บาท , ผู้สูงอายุและผู้พิการจะไม่เสียค่าเข้าชม ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะให้ติดต่อล่วงหน้าที่เบอร์ โทร.02-940 6543  

ปักหมุดที่ 3  “พิพิธภัณฑ์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร” ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของสำนักงานใหญ่ อาคาร Tower มีจุดเด่นอยู่ที่หลังคารูปทรงงอบยื่นออกมาจากด้านหน้าของอาคาร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการสินเชื่อเพื่อการเกษตรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จัดแสดงผ่านห้องนิทรรศการทั้งหมด 7 ห้อง โดยมีวิทยากรเป็นผู้นำชมและบรรยายแต่ละห้อง เริ่มจากด้านนอกบริเวณโถงต้อนรับมีการจำลองวิถีชีวิตของเกษตรกรแต่ละภูมิภาคอยู่ในตู้กึ่ง 3 มิติ (ไดโอรามา) สามารถกดปุ่มเพื่อดูการประกอบอาชีพของเกษตรกรที่แตกต่างกันแต่ละภาค จากจุดนี้ก็ไปต่อที่ “ห้องกำเนิด ธ.ก.ส.” เรื่องราวโดยรวมของห้องนี้พาย้อนเวลาไปสู่จุดเริ่มต้นของธ.ก.ส. พร้อมฉายภาพจากอดีต อาทิ ความยากลำบากของเกษตรกร การถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุน สิ่งเหล่านี้เป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้เกิด ธ.ก.ส. ในที่สุด และอยู่เคียงข้างเกษตรกรมาจนถึงวันนี้

ห้องต่อไป คือ ห้องรากฐาน ธ.ก.ส. สำหรับการออกแบบห้องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ตรงแก่นกลางของต้นไม้ใหญ่ที่หล่อหลอมขึ้นจากรากฐานอันมั่นคง ผ่านแนวคิด อุดมการณ์ ประสบการณ์ของ “อาจารย์จำเนียร สาระนาค” ผู้จัดการคนแรกของ ธ.ก.ส. และเมื่อมองไปที่ผนังรอบห้องก็จะพบสิ่งต่างๆ ที่สื่อถึงสิ่งที่ท่าน “คิด ทำ สอน” ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนวัตกรรมการให้สินเชื่อแบบกำกับและแนะนำ การเขียนตำราและคู่มือการปฏิบัติงานต่างๆ การวางแนวทางในการปฏิบัติตนสำหรับพนักงานที่เรียกว่า “กฎเหล็ก 9 ประการ” ซึ่งเป็นสิ่งที่พนักงานพึงละเว้น สิ่งที่สำคัญที่เน้นย้ำอย่างมาก คือ ความซื่อสัตย์สุจริต การไม่เอาเปรียบผู้อื่น ความสุภาพอ่อนน้อมและให้เกียรติผู้อื่น

ละห้องที่ถือเป็น “ไฮไลต์” ของพิพิธภัณฑ์ คือ ห้องความรัก ความผูกพัน และความภาคภูมิใจ ความพิเศษของห้องนี้อยู่ที่ภาพยนตร์ 4 มิติ ซึ่งจะเปิดประสบการณ์รับชมภาพยนตร์ให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น  เรียกได้ว่าจัดเต็มทั้งแสง สี เสียง เนื้อหาภาพยนตร์เล่าถึงเรื่องราวของพนักงานสินเชื่อ ธ.ก.ส. ที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้เป็นพนักงานสินเชื่อ และต้องไปปฏิบัติงานในต่างจังหวัด จนกระทั่งได้พบกับจุดเปลี่ยนสำคัญที่ก่อให้เกิดความรัก ศรัทธา และเห็นคุณค่าของงานที่ทำ จากความจริงจังตั้งใจช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับชาวบ้าน ขอแนะนำว่าเป็นอีกหนึ่งห้องที่ไม่ควรพลาด

ห้องที่ระลึกแห่งความทรงจำ เป็นการทบทวนความทรงจำของชาว ธ.ก.ส. ในวันวานถ่ายทอดผ่านรูปภาพและสิ่งของ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กระปุกออมทรัพย์กุ๊กไก่” รุ่นต่างๆ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของธ.ก.ส. และเป็นที่จดจำของลูกค้าของธนาคาร

 

ไปต่อกันที่ หอศิลป์ ธ.ก.ส. ที่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน จัดแสดง “สลากออมทรัพย์ทวีสิน” ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน , ภาพจิตรกรรมอันทรงคุณค่าของศิลปินที่มีชื่อเสียง , ประติมากรรมพระแม่โพสพ ตลอดจนวัตถุมงคลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชมรมพุทธศิลป์ ธ.ก.ส. ได้จัดสร้างขึ้น

 

ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้เพราะบริเวณชั้น 3 ยังมี หอสมุด ธ.ก.ส. ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ทันสมัย มีหนังสือหลากหลายหมวดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือกอ่านอย่างจุใจ นอกจากนี้ยังมี หอจดหมายเหตุ ธ.ก.ส. ที่รวบรวมบันทึกเอกสารสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร เอกสารจดหมายเหตุที่เป็นลายลักษณ์อักษรและสื่อโสตทัศน์ ร้อยเรียงเป็นนิทรรศการ “เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งการพัฒนา ธ.ก.ส.”

 

พิพิธภัณฑ์ ธ.ก.ส. เปิดวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-15.30 น. เว้นวันหยุดราชการ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากสนใจเข้าเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-558 6555 ต่อ 8369

 

เกี่ยวกับผู้เขียน

3,829 views

0

แบ่งปัน

ไฮไลท์ทริป

02 สิงหาคม 2565
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์
30 พฤษภาคม 2562
ชวนเที่ยวสิงห์บุรี เมืองคนดีวีรชนคนกล้า ท้าให้มาลองสัมผัส
25 กรกฎาคม 2562
ท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ ได้ความรู้ จ.นครราชสีมา
27 มิถุนายน 2562
เสน่ห์นครพนม เที่ยวแล้วติดใจ ต้องมาอีกแน่นอน
11 กรกฎาคม 2562
ชวนเที่ยว ประจวบคีรีขันธ์ เมืองน่าเที่ยว ได้ความรู้มากมาย
30 เมษายน 2564
จุดเริ่มต้นการศึกษาด้านดาราศาสตร์ไทย เมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
20 มิถุนายน 2562
เที่ยวเชียงราย ในมุมมองที่แตกต่าง
08 มิถุนายน 2562
ของดี เมืองชัยนาท ต้องห้ามพลาด
21 ตุลาคม 2562
@สยามเซอร์เพนทาเรียม(SIAM SERPENTARIUM)