สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
พัฒนาการเศรษฐกิจชุมชนแม่ขรี : ศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าสำคัญของพัทลุง พ.ศ. 2490 - 2550
สุริยา แปลงจะโปะ[1]
Suriya Plangjapon
เมื่อกล่าวถึงแม่ขรีในยุคปัจจุบัน เราอาจนึกถึงภาพของเมืองที่เต็มไปด้วยย่านการค้าและย่านสถานบันเทิงที่หลากหลายที่เปรียบดั่งเมืองสวรรค์ของผู้คนที่เข้ามาในแม่ขรี ซึ่งทำให้แม่ขรีกลายเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นลำดับต้น ๆ ของจังหวัดพัทลุง ภาพความเจริญดังกล่าวอาจทำให้เราคิดไปว่าแม่ขรีเป็นเมืองศิวิไลซ์ ที่มีพัฒนาการความเป็น “เมือง” มายาวนานไม่ต่างอะไรไปจากเมืองใหญ่ ๆ เช่น เมืองหาดใหญ่ เมืองบางแก้ว เมืองควนเนียง แต่จากการค้นคว้าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่า แม่ขรีมิใช่เมืองที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เมื่อเปรียบเทียบกับ ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ชุมชนตะโหมดซึ่งมีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในขณะที่เมืองเหล่านี้ ปรากฎร่อยรอยทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี ที่แสดงให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาอย่างน้อยที่สุดก็หลาย 100 ปี แต่แม่ขรีกลับไม่มีร่อยรอยของการก่อตั้งถิ่นฐานชุมชน หรือ อาณาจักรโบราณในพื้นที่แต่อย่างใด
ชุมชนแม่ขรีเป็นชุมชนหนึ่งที่เกิดจากเส้นทางการค้าขายของชาวอินเดียหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงทศวรรษ 2480 ก่อนหน้านี้ชุมชนแม่ขรีไม่มีการตั้งถิ่นฐานของผู้คน ยังเป็นเเค่เพียงทุ่งหญ้าสลับกับต้นไม้ ทางทิศเหนือของทุ่งมีลำคลอง ทำให้ชาวปลักปอมกับชาวตะโหมดซึ่งตั้งชุมชนอยู่ทางทิศตะวันตกใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงวัว และเป็นเส้นทางผ่านเพื่อเดินทางจากบ้านตะโหมด และบ้านปลักปอม ไปขึ้นรถไฟที่สถานีบางแก้วหรือไปค้าขายที่ตลาดบางแก้ว (สภาลานวัดตะโหมด 2543 : 16)
ต่อมา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม่ขรีมีการพัฒนาตนเองมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จนกลายเป็นชุมชนเมืองที่มีประชากรหนาแน่น โดยมีความหนาแน่นของประชากรต่อพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดพัทลุงรองจากอำเภอเมือง ทำให้แม่ขรี“กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้า การคมนาคม”การศึกษาของชุมชนใกล้เคียง มาจนถึงปัจจุบัน
พัฒนาการชุมชนแม่ขรี : บทบาทเมืองศูนย์กลางการค้า ช่วง พ.ศ. 2490 - 2550
ระบบเศรษฐกิจการค้าของชุมชนแม่ขรี ก่อน ทศวรรษ 2490 เป็นระบบเศรษฐกิจแบบยังชีพ โดยมีระบบการผลิตที่หลากหลาย ในช่วงนี้เป็น การผลิตเพื่อกินเพื่อใช้ แต่ส่วนเกินจากการกินก็จะนำไป ซื้อขายแลกเปลี่ยนกับชุมชนอื่น ในช่วงแรกของการก่อตั้งชุมชนปลายทศวรรษ 2480 ผู้คนใน แม่ขรีจะนำผลผลิตทางการเกษตรมีทั้ง ข้าว ยางพารา ผลไม้ต่าง ๆ ไปขายที่ตลาดบางแก้ว เช่นเดียวกับนายจาบ ชนะสิทธิ์ ได้สร้างธุรกิจของตนเองในแม่ขรีโดยการรับซื้อ “ขี้ยาง” ไปขายที่ตลาดบางแก้ว (สุรีรัตน์ ศิริสวัสดิ์ และ คณะ 2555 : 315 ) จนในปี พ.ศ. 2497 เป็นต้นมา กำนันสมพร ชนะสิทธิ์ ได้จัดตั้งตลาดถาวรขึ้นในแม่ขรี ทําให้มีผลผลิตมาแลกเปลี่ยนมากชนิด และผู้คนจากชุมชนอื่น ๆ ต่างเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันหนาแน่น จนทำให้ชุมชนเกิดการขยายตัวและเจริญรุ่งเรืองขึ้นของชุมชนอย่างรวดเร็ว