สวัสดีค่ะวันนี้ดิฉันจะพาทุกคนไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอุตรดิตถ์คะ ก่อนอื่นดิฉันต้องบอกก่อนเลยว่าดิฉันไม่ใช่คนอุตรดิตถ์ตั้งแต่กำเนิดแต่ดิฉันมีโอกาสได้มาเรียนที่นี่คะ เอาละไปเที่ยวพร้อมๆกันเลย สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดิฉันประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นคือ วัดพระแท่นศิลาอาสน์  บริเวณทางขึ้นไปวัดค่อนข้างลาดชันมีทั้งบันไดสำหรับเดินเท้าและทางเรียบเพื่อขับรถขึ้น แต่!! เดินขึ้นก็เอาเหงื่อไหลกันพอสมควร

ประตูสู่สวรรค์

     เอะ!! แต่ทุกคนคงไม่ทันสังเกตว่าบันไดทางขึ้นเป็นปูนปั้นรูปพญานาคที่กำลังคายพญานาคอีกตัวหนึ่ง หรือเรียกว่า มกรคายนาค ที่มีความสวยสดงดงาม ลำตัวของพญานาคมีสีเขียวมรกตตรงบริเวณเศียรเป็นสีเหลืองทองอร่าม

     วัดพระแท่นศิลาอาสน์ตั้งอยู่บ้านพระแท่น ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดกับวัดพระยืนพุทธบาลยุคล ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกบนเนินเขาลูกเดียวกันแต่คนละยอด ในสมัยโบราณวัดพระแท่นศิลาอาสน์มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า นายช่างที่สร้างวิหาร วัดพระแท่นศิลาอาสน์ วัดพระฝาง และวัดสุทัศน์ เป็นนายช่างคนเดียวกัน

     บานประตูเก่าของพระวิหารเป็นไม้แกะสลักโดยช่างฝีมือดี แกะไม้ออกมาได้โดดเด่น เป็นลายซ้อนกันหลายชั้น แม่ลายเป็นก้านขด ส่วนปลายดูใกล้ๆจะเห็นเป็นรูปภาพต่าง ๆ เป็นลายเดียวกับลายบานมุขที่วิหารพระพุทธชินราช บานประตูหน้าต่างภายในวิหารแกะสลักลวดลายที่สื่อถึงวันสำคัญๆมากมายทุกบาน    #นี่ถ่ายมาให้ดูแค่เรียกน้ำย่อยนะคะ

     ภาพบานประตู หน้าต่าง ภายในพระวิหาร

     บานประตูเหล่านี้สร้างแต่ครั้งพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรล้านนา เคียงคู่กับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระมหากษัตริย์ไทย แห่งกรุงศรีอยุธยาในสมัยนั้น

จุดที่น่าสนใจของวัดพระแท่นฯนะคะ คือ การสักการะองค์พระแท่นศิลาอาสน์, เข้าชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านล้านนา

สักการะองค์พระแท่นศิลาอาสน์

ชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านล้านนา

     สถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่เคารพสักการะบูชาของคนทั่วไป และทางราชการได้นำพระแท่นศิลาอาสน์ไปประดิษฐานใส่ในตราประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แสดงถึงความศรัทธาเลื่อมใสและความสำคัญขององค์พระแท่นศิลาอาสน์ที่มีต่อชาวอุตรดิตถ์

     หากท่านใดอยากมาเที่ยวชมหรือสักการะบูชาดิฉันแนะนำให้มาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะวัดพระแท่นฯจะมีการจัดงานสักการะพระแท่นศิลาอาสน์เป็นประจำทุกปี  โดยจัดตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน สาม  รวม 8 วัน 8 คืน สุดท้ายนี้ดิฉันขอเชิญทุกท่านมาเที่ยวชม สักกระบูชาและชื่นชมความงามของวัดพระแท่นศิลาอาสน์กันเยอะๆนะคะ

ภาพและบทความโดย นางสาวเจนจิรา เขื่อนหมั่น