สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ สถานที่เก่าแก่โบราณนับร้อยปีที่อยู่คู่เมืองแพร่มายาวนาน เป็นอาคารที่ทรงคุณค่า ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมที่มีรูปทรงเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป หรือที่มักได้ยินกันว่า “ทรงขนมปังขิง” ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2435 โดยเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ เจ้าเมืองแพร่องค์สุดท้าย สร้างโดยช่างฝีมือชาวจีนที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น เป็นอาคาร 2 ชั้น มีความสง่างาม ประดับด้วยไม้แกะฉลุสลักลวดลายอย่างประณีตสวยงาม เมื่อเข้าไปภายในอาคารจะเห็นถึงความโอ่โถง หรูหรา มีประตูหน้าต่างทั้งหมด 72 บาน โดยประตูแต่ละบานจะมีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกัน นิยมตั้งชื่อให้เป็นสิริมงคลดังเช่น ประตูตองคำใต้
สามสิบเอ็ดสอง จื่อตองคำใต้
เสียงโห่เอาจัย อยู่ซ๊าว
ประตูที่ 31 และ 32 ชื่อ “ตองคำใต้”เมื่อเดินผ่านจะพบกับชัยชนะ
ภายในอาคารแบ่งเป็นห้องต่างๆหลายๆส่วน ภายในยังคงมีข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของเจ้าหลวงที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พื้นอาคารชั้น1 จะสังเกตเห็นว่ามีช่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กหลายๆช่องที่สามารถเปิดปิดได้ ช่องนั้นทำไว้สำหรับสอดส่องและหย่อนอาหารให้นักโทษ
คุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้มีความแปลกกว่าอาคารอื่นคือ มีใต้ถุนอาคารเป็นคุกที่ใช้คุมขังทาส ซึ่งใช้มายาวนานกว่า 50 ปี โดยภายในแบ่งเป็น 3 ห้อง ใช้ขังทาสตามความผิดของแต่ละขั้น หากทำผิดขั้นร้ายแรงจะถูกขังในห้องมืดที่แสงไฟไม่สามารถลอดเข้าไปได้ และนักโทษจะได้รับบทลงโทษที่แสนทรมาน คำเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับวิญญาณบรรดาผีทาสที่เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมจึงกลายเป็นวิญญาณพยาบาท เคยมีคนเจอโครงกระดูก สภาพศพแขนขาหัก เจออุปกรณ์ที่ใช้ในการทรมานทั้งหลายอยู่ใต้คุ้มเจ้าหลวง จนกลายเป็นภาพหลอน บรรยากาศที่ดูวังเวงแสนหดหู่นั้นกลายเป็นเรื่องราวลี้ลับและอาถรรพ์เต็มไปด้วยตำนานที่น่าสะพรึงกลัว
จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ประกาศเลิกทาส
จากคุกขังทาสก็กลายเป็นคุกที่ใช้ขังนักโทษ มาจนถึงยุคสมัยที่มีการสร้างเรือนจำเมืองแพร่ขึ้น คุกทาส
ที่เป็นดั่งนรกบนดินที่ใช้งานมายาวนานจึงเหลือไว้เพียงตำนาน
ปี พ.ศ. 2540 คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ได้รับพระราชทานรางวัล จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีให้เป็นสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภท อาคารสถาบันและสาธารณะ ปัจจุบันคุ้มเจ้าหลวงได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์ที่สำคัญของเมืองแพร่