ตลาดท่าน้ำแก่งคอย เป็นถนนคนเดินเล็ก ๆ ในชุมชนแก่งคอย เป็นตลาดที่เปิดขายช่วงเย็น ๆ เป็นต้นไป และเปิดเฉพาะวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เท่านั้น วันนี้ตั้งใจจะมากราบหลวงพ่อลา และพระพระธาตุเจดีย์ศรีป่าสักที่วัดแก่งคอย จึงถือโอกาสแดดร่มลมตก เดินทะลุประตูด้านข้างวัดฝั่งตลาดออกมาเที่ยวชม “ตลาดท่าน้ำแก่งคอย” ไปด้วย

     ทางเข้าตลาดมีบริการจุดคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด19 พร้อมมีเจลแอลกอฮอลล์ให้บริการ ตลาดท่าน้ำแก่งคอยกินบริเวณกว้างแค่ซอยเดียว แต่เป็นซอยที่ขนาบซ้ายขวาด้วยตึกแถวไม้แบบโบราณมีเสน่ห์ไปอีกแบบ มีร้านค้าทั้งบนตึกแถวและที่ซุ้มกลางถนนเรียงรายยาวไปจนสุดทางเดิน สินค้าที่ขายก็จะเป็นพวกน้ำดื่มสมุนไพร ของเล่นเด็ก อาหารทานเล่น ขนมไทย ส้มตำ ร้านกาแฟสดและอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าหากใครต้องการมื้ออาหารแบบจริงจัง ก็มีร้านอาหารประเภทฟิวชั่นชื่อร้าน “ครัวแก่งคอย” ให้บริการ เมนูที่แนะนำของทางร้านคือ ข้าวไข่ข้น ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าไข่ข้นกุ้งต้มยำ ข้าวไข่ข้นทงคัตสึไข่เค็มลาวา หรือจะเป็นข้าวหน้าปลาซาบะย่างแบบญี่ปุ่น  ร้านถัดไปเป็นร้านขนมหวานและร้านขนมจีนน้ำยา  ตลาดนี้มีแคร่ไม่ให้นั่งสำหรับพักขา พร้อมพัดลมคลายร้อนขนาดใหญ่ ถือว่าดีเลยนะครับ

     เสน่ห์ของที่นี่คือเมื่อเดินเที่ยวไปจนสุดถนน คุณจะพบกับทางลงไปยังท่าน้ำริมแม่น้ำป่าสัก (ทางค่อนข้างลาดชันไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ) ทางตลาดได้สร้างศาลาริมน้ำขนาดใหญ่เอาไว้ให้ประชาชนได้ขึ้นไปชมวิวคุ้งน้ำป่าสักที่ไหลโค้งเรื่อยมาตั้งแต่เขตแดนวัดแก่งคอย ไหลผ่านมาทางศาลาริมน้ำของตลาด บนศาลานี้มีที่นั่งสำหรับรับประทานอาหาร ประดับโคมไฟสวยงาม บางวันจะมีดนตรีสดให้ฟังด้วย มีห้องน้ำบริการ อย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาด ระวังอย่าให้มีขยะปลิวตกลงไปในแม่น้ำนะครับ

     การเดินทางมาที่ตลาดแก่งคอยไม่ยากครับ อยู่ห่างจากตัวเมืองสระบุรีเพียง 17 กิโลเท่านั้น สามารถนำรถไปจอดในวัดแก่งคอยแล้วเดินมาที่ตลาดได้เลย แค่ 300 เมตรเท่านั้นเอง ระหว่างทางยังมีตลาดสดที่ชาวบ้านมาขายผัก ผลไม้สวย ๆ ปลาตากแห้งและกับข้าวสำเร็จรูปราคาถูก ๆ ให้ได้เลือกซื้อกัน วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่รู้จะไปไหน ขับรถมาไหว้พระ ทำบุญ เดินเที่ยวตลาดท่าน้ำแก่งคอยกันนะครับ

                                                                                                เรียบเรียงโดย

                                                                                                นายนิติกรณ์  สุขสบาย