สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
วัดพระสิงห์ หรือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมีความสำคัญกับจังหวัดเชียงใหม่มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดพระสิงห์ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นพระอารามหลวง ตามประวัติวัดพระสิงห์สร้างตั้งแต่สมัยพญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์เม็งราย เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดา เดิมมีชื่อว่า “วัดลีเชียงพระ” ส่วนชื่อวัดพระสิงห์นี้เป็นชื่อที่เรียกกันภายหลัง หลังจากอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา มีศิลปะเชียงแสน พระพุทธสิหิงค์องค์ที่อยู่ที่วัดพระสิงห์นี้ประดิษฐานในวิหารลายคำเป็นองค์จำลองมีศิลปะแบบเชียงแสน วัดพระสิงห์ได้ถูกปฏิสังขรณ์อยู่หลายครั้ง ในอดีตมีการขุดพบสิ่งของมีค่ามากมาย อาทิ แผ่นทองคำจารึกเรื่องราวต่างๆ โกศบรรจุอัฐิพระญาคำฟู แต่สิ่งของเหล่านี้สูญหายไปในช่วงสงครามเอเชียบูรพา วัดพระสิงห์ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ที่ให้ความศรัทธาและจะเดินทาง มาเคารพ สักการะกันอย่างเนื่องแน่นเป็นประจำ ทุกปีเมื่อถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์หรืองานประเพณีปี๋ใหม่เมือง ทางราชการ จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบกแห่ไปรอบเมืองเพื่อให้ศรัทธา ประชาชนได้พากันมา สรงน้ำเนื่อง ในเทศกาลปีใหม่ ตามคติล้านนา คนเกิดปีมะโรงต้องมาไหว้พระสิงห์ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
สิ่งที่น่าสนใจในวัดพระสิงห์
2. หอไตร
สร้างเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ ผนังด้านนอกประดับด้วยทวยเทพปูนปั้น ทำเป็นรูปเทพพนมยืน บ้างก็เหาะประดับ อยู่โดยรอบ เป็นฝีมือช่างสมัยพระเมืองแก้ว ประมาณ พ.ศ. 2476 เจ้าแก้วนวรัฐได้ซ่อมแซมขึ้น ใหม่ที่ฐาน หอไตรปั้นเป็นลายลูกฟักลดบัว ภายในประดับด้วยรูปสัตว์หิมพานต์ เช่น นางเงือกมีปีก คชสีห์มีปีก กิเลน เป็นต้น และมีลายประจำยามลักษณะคล้ายลายสมัยราชวงศ์เหม็งของจีน
4.วิหารลายคำ
วิหารลายคำนี้มีลวดลายปูนปั้นที่สวยงามปราณีตบรรจงมากแสดงให้เห็นฝีมือของช่างในยุคนั้นว่าเจริญถึงที่สุด ตัววิหารลายคำสร้างตามแบบศิลปกรรมของภาคเหนือ มีรูปปั้นพญานาค 2 ตัวอยู่บันไดหน้า และใกล้ ๆ พญานาค มีรูปปั้นสิงห์ 2 ตัว บริเวณ ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธสิหิงค์” บนผนังด้านหลังพระประธาน เสาหลวง (เสากลม) เสาระเบียง (เสาสี่เหลี่ยม) มีภาพลายทองพื้นแดงเป็นลวดลายต่างๆ เต็มไปหมด ด้านหลังพระประธาน ยังมีรูปปราสาทแวดล้อมด้วยมังกรและหงส์ มีความงดงามน่าชมยิ่ง ผนังวิหารด้านเหนือมีภาพจิตรกรรม เขียน เรื่องสังข์ทอง ด้านใต้เรื่องสุวรรณหงส์ นับเป็นภาพที่น่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสังข์ทอง พบเพียงแห่ง เดียวที่นี่
5. พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์
พระสิงห์ หรือ พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางสมาธิ เป็นศิลปกรรมล้านนา ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารลายคำ วิหารนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเมืองแก้ว หรือ ประมาณ พ.ศ.2038 – 2068 พระพุทธสิหิงค์นี้ตามประวัติกล่าวว่า พระเจ้าสีหฬะ พระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีปทรงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 700 ต่อมาได้มาประดิษฐานที่ประเทศไทยในสมัยพระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย และได้ย้ายไปอยู่หลายที่ได้แก่ กำแพงเพชร อยุธยา เชียงใหม่ เชียงราย ปัจจุบันพระพุทธสิหิงค์องค์จริงนี้ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีพระพุทธสิหิงค์อยู่ด้วยกัน 3 องค์ องค์หนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ องค์หนึ่งอยู่ที่หอพระพุทธสิหิงค์นครศรีธรรมราช อีกองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์เชียงใหม่ ซึ่งพระพุทธสิหิงค์ที่วัดพระสิงห์นี้เป็นพุทธลักษณะปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสนสิงค์ 1 คือจะเป็นพุทธลักษณะนั่งขัดสมาธิเพชร
ขอบคุณภาพและเนื้อเรื่อง จาก
www.paiduaykan.com
www.zthailand.com