สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
เมืองน้ำตก นครนายกแดนสวรรค์
น้ำตกนางรอง จ.นครนายก
ป้ายน้ำตกนางรอง ไปที่ไหนก็ถ่ายป้ายที่นั่น จะได้รู้ว่าเราได้มาแล้วและจะได้จำได้ไม่ลืมว่าที่นี่ชื่อน้ำตกนางรอง ไม่งั้นหากเอาไฟล์รูปภาพจากกล้องไปลงคอมไว้มากๆ ไม่จัดโฟลเดอร์ให้ดีมีหวังเปิดดูทีหลังทั้งงงทั้งจำไม่ได้ ใครจะว่าวิวสิ้นคิดก็ช่าง ผมจะถ่ายรูปป้ายเป็นรูปแรกๆ ของอัลบัมเสมอ ป้ายน้ำตกนางรองอยู่ริมถนน ห่างจากลำธารที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่เกิดเป็นน้ำตกหลายชั้นเพียงไม่มาก แต่ถ้าจะลงไปยังน้ำตกจะต้องเดินทางสะพานทางลงน้ำตกให้เจอก่อน เพราะระหว่างถนนกับลำธารมีห้วยเล็กๆ คั่นอยู่ ตอนนี้ผมยังไม่ลงน้ำตกแต่จะไปยังจุดชมวิว เพื่อชมวิวสวยๆ ของน้ำตกนางรองก่อน
ทางเดินไปจุดชมวิว ขึ้นเนินไปแต่เจ้าหน้าที่จะเอาเหล็กมากั้นเขียนบอกว่าห้ามรถทุกชนิดเข้าไป ฉะนั้นเราก็ต้องเดิน แต่ระยะทางมันไม่ไกลมาก ดูเหมือนจะประมาณ 300 เมตรละมั้ง สองข้างทางเขียวขจีต้นไม้สูงใหญ่ตลอดแนว แสดงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ความชุ่มชื้นดูกันที่มอสเฟิร์นที่ขึ้นอยู่ตามต้นไม้ และขอบทางเดิน
บริเวณบ้านพัก มีบันไดทางลงไปชมวิวน้ำตกนางรอง มีบ้านเจ้าหน้าที่อยู่หลายหลัง ขอบถนนสร้างเป็นแนวไม่สูงมากพอให้เดินข้ามได้ นอกแนวขอบทางมีโต๊ะตั้งไว้เป็นจุดๆ ให้นั่งพักผ่อน แต่ดูเหมือนว่าโต๊ะเหล่านั้นจะไม่ค่อยได้ต้อนรับแขกเท่าไหร่ เพราะระยะทางที่เดินมันไม่ไกลมากไม่เหนื่อยขนาดต้องไปหาที่นั่งพัก เมื่อก่อนบริเวณนี้ลงเล่นน้ำได้ตอนนั้นคงจะมีคนมานั่งอยู่บ้าง แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยๆ อันเนื่องมาจากกระแสน้ำบริเวณนี้เชี่ยวมาก ผาน้ำตกก็ค่อนข้างสูง มีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ก็เลยต้องปิดห้ามลงเล่นน้ำ ส่วนฤดูแล้งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเปิดให้ลงหรือไม่
ทางลงจุดชมวิว หลังจากมองไปรอบๆ แล้วไม่มีอะไรที่สะดุดตาน่าถ่ายรูป เราก็ต้องมองหาทางลงไปยังจุดชมวิวได้แล้วละ บันไดตรงนี้จะกว้างกว่าบันไดทางลงไปยังน้ำตกที่เราเคยเดินผ่านมา ข้างบันไดมีป้ายใหญ่ๆ ตัวหนังสือแดง เขียนบอกว่าห้ามลงเล่นน้ำ กับป้ายให้ระมัดระวังการลงเล่นน้ำ เพราะตรงนี้เห็นได้ชัดว่าน้ำเชี่ยวมาก โขดหินก็สูง ถ้าไหลไปกับน้ำแล้วตกลงข้างล่างอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตเพราะน้ำตกกดเราลงไปใต้น้ำ แต่ก็คงไม่เป็นไรแค่เห็นน้ำที่ไหลอยู่ข้างล่างต่อให้ไม่เขียนป้ายเตือนไว้จ้างให้ผมก็ไม่ลงหรอก
สะพานชมวิวน้ำตกนางรอง สะพานที่เราจะเห็นอยู่ลิบๆ ตั้งแต่ลานจอดรถแล้ว สะพานนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้เราได้มายืนชมวิวอยู่ตรงกลางลำธาร เห็นสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากเขาอย่างสวยงาม เอาละอย่ามัวยืนดูสะพานอยู่เลยไปกลางสะพานกันดีกว่า
วิวสวยจากน้ำตกนางรอง สายน้ำที่ไหลลงมาอย่างเชี่ยวกรากตามลำดับของโขดหินที่ขวางทางน้ำอยู่ เราเห็นเพียงสายน้ำอยู่ลิบๆ แต่มองไม่เห็นว่ามาจากไหน สูงขึ้นไปก็จะมีแนวเขาเขียวขจี ซึ่งก็น่าจะเป็นต้นกำเนิดสายธารเล็กๆ ไหลมารวมกันจนเป็นลำธารใหญ่แห่งนี้ ธรรมชาติสร้างสรรงานที่สวยงามนี้ได้อย่างอัศจรรย์ นอกจากความสวยงามที่เราจะได้สัมผัสเกิดเป็นความสุขทางใจ เรายังได้ใช้น้ำเหล่านี้ในการดำรงค์ชีวิต สมัยก่อนคนเราใช้น้ำจากลำธาร พวกมนุษย์จึงได้รักษาน้ำเป็นอย่างดี สมัยนี้เราชินกับการเปิดก๊อกมากเกินไป เรามั่นใจว่าทุกครั้งที่เปิดก๊อกจะต้องมีน้ำสะอาดไหลออกมา เราละเลยเรื่องการรักษาน้ำและใช้ชีวิตอยู่กับน้ำกันไปหมด นานวันเข้าเราคงลืมไปว่า น้ำสะอาดจากก๊อกก็เอาน้ำจากแม่น้ำลำคลองมาทำ ยิ่งน้ำในคลองในแม่น้ำสกปรกมากเท่าไหร่ การทำให้น้ำก๊อกสะอาดใสก็ยิ่งต้องเปลืองงบประมาณและพลังงานมากเท่านั้น ถ้าในที่สุดเราไม่สามารถทำให้น้ำสะอาดได้ ตอนนั้นเราจะรู้คุณค่าของสายธารในธรรมชาติการยืนถ่ายรูปบนสะพานเพื่อที่จะได้วิวน้ำตกสวยๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าสะพานแห่งนี้จะไหวไปไหวมาเวลามีคนเดินหรือเคลื่อนไหว วันที่มีนักท่องเที่ยวมามากๆ อย่างในข่วงวันหยุดการหาโอกาสสะพานนิ่งๆ เพื่อที่จะกดชัตเตอร์ไม่ได้ง่ายๆ เลย แม้แต่ตัวเราเองก็ตาม ถึงแม้ไม่เดินไปเดินมาแต่ถ้าขยับตัวแรงไปหน่อยก็ทำให้สะพานไหวได้แล้วละ จากสะพานเดินลงไปอีกฟากของลำธาร แล้วเดินเรื่อยสูงขึ้นไปเหนือน้ำตกได้ ก็มีนักท่องเที่ยวบางคนเดินไปเหมือนกัน
อัตราค่าผ่านประตู
การเข้าชมน้ำตกนางรองนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าบำรุงสถานที่ ดังนี้
รถยนต์โดยสาร (รวมบุคคล) 150 บาท รถจักรยานยนต์ 10 บาท
รถยนต์เล็ก (รวมบุคคล) 50 บาท บุคคลคนละ 5 บาท
รถตู้ (รวมบุคคล) 100 บาท