ชายคนหนึ่งมีอาการเกร็ง มือไม้สั่น ร้องคำรามออกมาไม่เป็นภาษาคน มันคืออาการที่เรียกว่า “ของขึ้น” อาการเหล่านี้ไม่เกิดกันคนธรรมดาแน่นอน แต่เกิดกับผู้ที่มีรอยสักของหลวงพ่อเปิ่นตามเรือนร่าง ที่ได้เข้าร่วมพิธีไหว้ครูประจำปี วัดบางพระ
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นามเดิม เปิ่น นามสกุล ภู่ระหงษ์ เป็นชาวนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยกำเนิดมีพี่น้องด้วยกัน 10 คน หลวงพ่อเป็นคนที่ 9 หลวงพ่อเปิ่นสนใจเรื่องไสยศาสตร์มาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ด้วยความที่มีบ้านอยู่ใกล้วัดบางพระ ในสมัยนั้นพระที่จำพรรษาอยู่ที่วัดบางพระต่างมีวิชาเก่งกาจสามารถทางสายไสยศาสตร์อยู่หลายองค์ หลวงพ่อเปิ่นจึงได้เข้าไปศึกษาหาความรู้วิชาไสยศาสตร์อยู่ที่วัดเป็นประจำ ทั้งวิชายาสมุนไพรคาถาอาคม จากหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก วิชาสักยันต์ จากหลวงพ่อหิ่ม อินฺทโชโต จากนั้นจึงได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบางพระ หลวงพ่อเปิ่นได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด ซึ่งได้อบรมแนะนำสั่งสอนพระกัมมัฎฐาน และเริ่มออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อเผยแพร่ธรรมะและใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนช่วยเหลือชาวบ้าน จนได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙ และเริ่มมีชื่อเสียงเรื่อง การสักยันต์ จนเมื่อหลวงพ่อทองอยู่ ปทุมรัตน์ มรณภาพลงในปี พ.ศ.๒๕๑๖ เจ้าอาวาสวัดบางพระ จึงว่างลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ไปกราบอาราธนาหลวงพ่อเปิ่นให้กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสและพัฒนาวัดบางพระ รอยสักยันต์ที่ขึ้นชื่อลื่อชาของหลวงพ่อเปิ่น ที่ลูกศิษย์ลูกหานิยมกันอย่างมากคงหนีไม่พ้น รอยสักเสือเผ่น หลวงพ่อเปิ่นเล่าให้ฟังว่า “ชอบ เสือ เสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ เพียงเสียงคำรามของเสือ สัตว์ทั้งหลายก็สงบเงียบ กลิ่นของเสือ สัตว์ทั้งหลายเมื่อรับสัมผัสจะยอมในทันที หลีกทันก็ต้องหลีก จัดอยู่ในมหาอำนาจ เสือรูปร่างสง่างาม เต็มไปด้วยอำนาจบารมี จัดอยู่ในมหานิยม ที่สำคัญ หลวงพ่อเปิ่น เคยประจันหน้ากับเสือมาแล้ว กลางป่าลึก ระหว่างธุดงค์วัตรแถวป่าใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี จึงเกิดความประทับใจตั้งแต่นั้นมา” ความโด่งดังเรื่องการสักยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นมีผู้คนมาสักยันต์และฝากตัวเป็นลูกศิษย์จำนวนมาก ทำให้วัดบางพระได้รับการพัฒนาอีกทางหนึ่ง ดูได้จากงานวันไหว้ครูปีจะมีคนมาร่วมงานจำนวนมาก เพราะเป็นการระลึกถึงคุณครูผู้ประสิทธิประสาทวิชา
อ้างอิง
http://thaipra.wordpress.com
ร่องรอยเป็นเรือนร่าง บ่งบอกความหมาย และคุณค่าในตัวตน "สัก" คืออะไร พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 เขียนว่า "สัก คือ การเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธี การหรือเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ กัน, ใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย, ถ้าใช้หมึกเรียกว่า สักหมึก, ถ้าใช้น้ำมันเรียกว่า สักน้ำมัน (โบ)” ทำเครื่องหมายสักเพื่อแสดงเป็นหลักฐาน เช่น "สักข้อมือ แสดงว่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นชายฉกรรจ์หรือมีสังกัดกรมกอง ข้าราชการของไทยจะทำตำหนิที่ข้อมือคนในบังคับซึ่งเป็นหน้าที่ของแผนกทะเบียนเป็นผู้บันทึกและรวบรวมสถิติชาย และอาจจะเดาได้ว่าการสักเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งส่วนราชการของไทย หรือการสักเป็นไปตามการแบ่งส่วนราชการ การทำเครื่องหมายลงบนร่างกายนี้อาจมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ( พ.ศ.1991 - 2031 ) สักหน้าแสดงว่าเป็นผู้ต้องโทษปราชิก เป็นต้น"
อ้างอิง
http://www.itti-patihan.com
อุปทานหมู่ (Mass hysteria) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า
collective hysteria, mass psychogenic illness หรือ collective obsessional behavior เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจิตสังคมซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในกรณีที่กลุ่มบุคคลนั้นมีความคิด ความเชื่อว่าตนเองเจ็บป่วยเป็นโรคเดียวกัน หรือเผชิญปัญหาเดียวกัน จึงแสดงอาการออกมาแบบเดียวกัน Mass psychogenic illness เป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นในกลุ่มคน ที่มีความเชื่อร่วมกัน และแสดงออกอาการ ทางร่างกายเช่น เกร็งตัว กล้ามเนื้อ กรีดร้อง ชัก ไม่รู้ตัว แต่เมื่อทำการตรวจทางการแพทย์แล้วไม่พบสิ่งผิดปกติทางร่างกายที่อธิบายอาการต่างๆ เหล่านี้ได้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในวัยเด็กวัยรุ่น หญิงมากกว่าชายการแพร่กระจายของกลุ่มคนที่มีอาการแบบเดียวกันจะเกิดขึ้นได้อย่างงรวดเร็วเป็นจากการถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นจากคนที่เป็นมาก่อน หรือมีเหตุกระตุ้นจากภายนอก สิ่งแวดล้อม เช่นข่าวที่แพร่สะพัดออกไป และจะดีขึ้นได้หากแยกผู้ป่วยออกจากกันและหาเหตุเหนี่ยวนำให้เกิดแล้วจัดการโดยเร็ว
อ้างอิง
เอกสารอภิปรายร่วมในเวที “นักวิทย์คุยข่าว” ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๑ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นามเดิม เปิ่น นามสกุล ภู่ระหงษ์ เป็นชาวนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม โดยกำเนิดมีพี่น้องด้วยกัน 10 คน หลวงพ่อเป็นคนที่ 9 หลวงพ่อเปิ่นสนใจเรื่องไสยศาสตร์มาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ด้วยความที่มีบ้านอยู่ใกล้วัดบางพระ ในสมัยนั้นพระที่จำพรรษาอยู่ที่วัดบางพระต่างมีวิชาเก่งกาจสามารถทางสายไสยศาสตร์อยู่หลายองค์ หลวงพ่อเปิ่นจึงได้เข้าไปศึกษาหาความรู้วิชาไสยศาสตร์อยู่ที่วัดเป็นประจำ ทั้งวิชายาสมุนไพรคาถาอาคม จากหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก วิชาสักยันต์ จากหลวงพ่อหิ่ม อินฺทโชโต จากนั้นจึงได้บรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบางพระ หลวงพ่อเปิ่นได้เข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด ซึ่งได้อบรมแนะนำสั่งสอนพระกัมมัฎฐาน และเริ่มออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อเผยแพร่ธรรมะและใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนช่วยเหลือชาวบ้าน จนได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๙ และเริ่มมีชื่อเสียงเรื่อง การสักยันต์ จนเมื่อหลวงพ่อทองอยู่ ปทุมรัตน์ มรณภาพลงในปี พ.ศ.๒๕๑๖ เจ้าอาวาสวัดบางพระ จึงว่างลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ไปกราบอาราธนาหลวงพ่อเปิ่นให้กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสและพัฒนาวัดบางพระ รอยสักยันต์ที่ขึ้นชื่อลื่อชาของหลวงพ่อเปิ่น ที่ลูกศิษย์ลูกหานิยมกันอย่างมากคงหนีไม่พ้น รอยสักเสือเผ่น หลวงพ่อเปิ่นเล่าให้ฟังว่า “ชอบ เสือ เสือเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ เพียงเสียงคำรามของเสือ สัตว์ทั้งหลายก็สงบเงียบ กลิ่นของเสือ สัตว์ทั้งหลายเมื่อรับสัมผัสจะยอมในทันที หลีกทันก็ต้องหลีก จัดอยู่ในมหาอำนาจ เสือรูปร่างสง่างาม เต็มไปด้วยอำนาจบารมี จัดอยู่ในมหานิยม ที่สำคัญ หลวงพ่อเปิ่น เคยประจันหน้ากับเสือมาแล้ว กลางป่าลึก ระหว่างธุดงค์วัตรแถวป่าใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี จึงเกิดความประทับใจตั้งแต่นั้นมา” ความโด่งดังเรื่องการสักยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นมีผู้คนมาสักยันต์และฝากตัวเป็นลูกศิษย์จำนวนมาก ทำให้วัดบางพระได้รับการพัฒนาอีกทางหนึ่ง ดูได้จากงานวันไหว้ครูปีจะมีคนมาร่วมงานจำนวนมาก เพราะเป็นการระลึกถึงคุณครูผู้ประสิทธิประสาทวิชา
อ้างอิง
http://thaipra.wordpress.com
ร่องรอยเป็นเรือนร่าง บ่งบอกความหมาย และคุณค่าในตัวตน "สัก" คืออะไร พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 เขียนว่า "สัก คือ การเอาเหล็กแหลมแทงลงด้วยวิธี การหรือเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ กัน, ใช้เหล็กแหลมจุ้มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย, ถ้าใช้หมึกเรียกว่า สักหมึก, ถ้าใช้น้ำมันเรียกว่า สักน้ำมัน (โบ)” ทำเครื่องหมายสักเพื่อแสดงเป็นหลักฐาน เช่น "สักข้อมือ แสดงว่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นชายฉกรรจ์หรือมีสังกัดกรมกอง ข้าราชการของไทยจะทำตำหนิที่ข้อมือคนในบังคับซึ่งเป็นหน้าที่ของแผนกทะเบียนเป็นผู้บันทึกและรวบรวมสถิติชาย และอาจจะเดาได้ว่าการสักเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งส่วนราชการของไทย หรือการสักเป็นไปตามการแบ่งส่วนราชการ การทำเครื่องหมายลงบนร่างกายนี้อาจมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ( พ.ศ.1991 - 2031 ) สักหน้าแสดงว่าเป็นผู้ต้องโทษปราชิก เป็นต้น"
อ้างอิง
http://www.itti-patihan.com
อุปทานหมู่ (Mass hysteria) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า
collective hysteria, mass psychogenic illness หรือ collective obsessional behavior เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจิตสังคมซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในกรณีที่กลุ่มบุคคลนั้นมีความคิด ความเชื่อว่าตนเองเจ็บป่วยเป็นโรคเดียวกัน หรือเผชิญปัญหาเดียวกัน จึงแสดงอาการออกมาแบบเดียวกัน Mass psychogenic illness เป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นในกลุ่มคน ที่มีความเชื่อร่วมกัน และแสดงออกอาการ ทางร่างกายเช่น เกร็งตัว กล้ามเนื้อ กรีดร้อง ชัก ไม่รู้ตัว แต่เมื่อทำการตรวจทางการแพทย์แล้วไม่พบสิ่งผิดปกติทางร่างกายที่อธิบายอาการต่างๆ เหล่านี้ได้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในวัยเด็กวัยรุ่น หญิงมากกว่าชายการแพร่กระจายของกลุ่มคนที่มีอาการแบบเดียวกันจะเกิดขึ้นได้อย่างงรวดเร็วเป็นจากการถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นจากคนที่เป็นมาก่อน หรือมีเหตุกระตุ้นจากภายนอก สิ่งแวดล้อม เช่นข่าวที่แพร่สะพัดออกไป และจะดีขึ้นได้หากแยกผู้ป่วยออกจากกันและหาเหตุเหนี่ยวนำให้เกิดแล้วจัดการโดยเร็ว
อ้างอิง
เอกสารอภิปรายร่วมในเวที “นักวิทย์คุยข่าว” ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๑ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
วันที่สร้าง : 05 มิถุนายน 2560
สร้างโดย
ความคิดเห็น
แจ้งข้อความไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น (0)
โหลดเพิ่มเติม
กระทู้ยอดนิยม