คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

ย้อนกลับ

ทะเลหมอกที่ไร้หมอก

ไอเย็นที่อัยเยอร์เวง : เบตง

ความรู้สึกอยากสัมผัสอากาศเย็น มักเกิดขึ้นตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่มีดวงอาทิตย์ตามติด ชนิดที่เหมือนอุปกรณ์พกพาตามตัวอยู่ตลอดเวลา...อาจจะโชคดีมากขึ้น หากที่พำนักอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย ที่หากเวลามีเวลาว่างหน่อยก็อาจจะหอบร่างตัวเอง ขึ้นไปกอดไอหนาวบนดอย แต่ความคิดนี้มันวนเวียนอยู่กับบุคคลที่มีถิ่นอยู่ภาคใต้แต่กำเนิดอย่างเช่นผม การตามหายอดดอยใกล้ตัวคงไม่ง่ายและมีไม่กี่แห่งที่พอจะนึกออก หนึ่งในตัวเลือก คือ อัยเยอร์เวง ตำบลหนึ่งในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา

การเดินทางไปอำเภอเบตง เป็นไปได้เพียงช่องทางเดียว คือ ทางบก มีรถสาธารณะหลายสายมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ใต้สุดของประเทศ "เบตง" เป็นอำเภอที่มีรูปแบบการท่องเที่ยวครบวงจรแห่งหนึ่งของประเทศ จึงถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว ดังคำขวัญของจังหวัดยะลาว่า "ใต้สุดแดนยาม เมืองงามชายแดน" แต่เป้าหมายเดียวที่หัวใจผมเพรียกหา คือการไปยืนสัมผัสไอหมอกยามเช้าบนยอดเขาไมโครเวฟ ตำบลอัยเยอร์เวง เพื่อสลัดความร้อนออกจากร่างกายและจิตใจ 

เคยมีหนังสือทางจิตวิทยากล่าวไว้ว่า ... วิธีการคลายเครียดที่ได้ผลอย่างหนึ่ง คือ การปล่อยวางและนำตัวเองให้ใกล้ชิดธรรมชาติ... ผมจึงออกเดินทางมาที่นี่ ตั้งใจจะมาพิสูจน์ประโยคดังกล่าวว่าจริงเเท้แค่ไหน เพราะตั้งแต่เกิดมาจำความได้ จนโตมาได้วัยเบญจเพศ เคยสัมผัสทะเลหมอกที่ใกล้ที่สุด เพียงแค่บนปกนิตยสารการท่องเที่ยวหรือเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น การเดินทางครั้งนี้จึงถือเป็นการหอบความฝันมาด้วย ตั้งใจจะเก็บรูปไว้บันทึกความทรงจำให้มากที่สุด แล้วนำไปอวดญาติสนิทมิตรสหาย พรรณนาถึงความสวยงามที่จับต้องได้ เพราะกว่าจะจัดการตัวเองและสะสางภาระรอบตัวให้ประจวบเหมาะ ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดได้ง่ายตลอดเวลา หากบรรยายถึงความตื่นเต้น คงประมาณช่วงเวลาที่ได้ย้ายเข้าโรงเรียนใหม่หรือได้งานดีๆทำสักอย่างหนึ่ง ทำนองนั้น ... ก่อนเดินทางเตรียมตัวศึกษาข้อมูลรอบด้าน ปรึกษาเพื่อนที่พำนักอยู่เบตงว่าหมอกที่นั้นสวยงามมากไหม เพื่อนตอบกลับแค่ว่า หากไม่มีฝนตกหลังเที่ยงคืน หมอกก็สวยงามใช้ได้ ได้ยินเช่นนั้นจึงสบายใจ เพราะตอนนั้น คือ วันที่ 15 เมษายน หน้าร้อนพอดิบพอดี

เหลือเวลาอีกประมาณสี่ชั่วโมงก่อนจะขึ้นชมทะเลหมอก ผมนอนรอไปพร้อมกับเสียงฝนตกที่กระทบกับหลังคารีสอร์ท ดังเปาะแปะ ภาวนาในใจว่าคงไม่มีผลถึงความสวยของทะเลหมอกและสุดท้ายโชคก็เหมือนเข้าข้าง เสียงฝนมันก็หยุดลงก่อนผมออกเดินทางขึ้นยอดเขาราว 30 นาที ทุกนาทีที่เดินขึ้นไปพร้อมกล้องถ่ายรูปในมือ มันเต็มไปด้วยความตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก ไอเย็นที่กระทบผิวหน้า ส่งผลให้การเต้นของหัวใจเร็วขึ้นเป็นทวีคุณ ผมนั่งคอยอยู่บนจุดชมวิวราวหนึ่งชั่วโมงจนท้องฟ้าเริ่มสว่าง ภาพที่ค่อยๆเห็นเด่นชัดอยู่ตรงหน้า เหมือนกับสิ่งที่ผมจินตนาการไว้ทุกประการ มีเสียงนก ไอเย็นเสียงหวีดหวิว ยอดเขาสลับซับซ้อน พืชพรรณเขียวขจี มีครบทุกอย่าง ยกเว้นทะเลหมอก

ผมมาที่นี่เพื่อชมทะเลหมอกแต่ไม่มีหมอก แต่กลับไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่รอคอยแม้แต่น้อย ธรรมชาติที่สวยงามรอบตัวกลับช่วยเยียวยาให้ความรู้สึกมันดีขึ้น ผู้คนอีกนับร้อยที่เดินทางมาพร้อมความหวัง เขาก็ต้องผิดหวังเช่นเดียวกับผม แต่ทุกคนยังยิ้มสวยให้กัน หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป คู่กับก้อนหิน ใบไม้และยอดหญ้า วันนี้ในวันที่ทะเลหมอกไม่มีหมอก ทุกสิ่งรอบตัวกลับเห็นเด่นชัดและมีคุณค่ามากขึ้นกว่าที่เป็น ถ้าวันนี้มีหมอก ผมคงมองไม่เห็นขอบฟ้าอีกด้านหนึ่งของขุนเขา ผมคงไม่ทันเห็นหมู่บ้านที่อยู่ข้างล่าง ผมคงลืมสังเกตว่าบนยอดเขาแห่งหนึ่งมีพันธ์ุพืชที่หายากเติบโตมากมาย ความโชคร้ายที่เกิดขึ้นในวันนี้ กลับกลายเป็นความโชคดีขึ้นมาทันตา เป็นความรู้สึกสุขครั้งแรกกับสิ่งที่ตนไม่เคยคาดหวัง ทำให้นึกถึงปรัชญาที่เคยมีใครกล่าวไว้ว่า "อย่ามัวแต่มองหาความสุขที่ขาดหาย จนหลงลืมความสุขที่มีอยู่"

ผมหยิบกล้องถ่ายรูปทะเลหมอกขึ้นมาอีกครั้ง และจะรีบกลับไปบอกใครต่อใครว่า ผมโชคดีแค่ไหน ที่ได้ยืนดูทะเลหมอก ในวันที่ไร้ซึ่งหมอก

4,483 views

0

แบ่งปัน