คำแนะนำการใช้งาน
ขยายขนาดตัวอักษร
เพิ่มระยะห่างตัวอักษร
เพิ่มขนาดลูกศรชี้
ตำแหน่ง
เส้นช่วยในการอ่าน
เน้นการเชื่อมโยง
ปรับชุดสี
เปิดการใช้งาน
ปิดการใช้งาน
คำแนะนำการใช้งาน
เริ่มต้นใช้งาน
Text Size

การขยายขนาดตัวอักษร

สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน

Text Spacing

การเพิ่มระยะห่างตัวอักษร

การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

Large Cursor

การเพิ่มขนาดลูกศรชี้ตำแหน่ง

ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%


Reading Guide

เส้นช่วยในการอ่าน

จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น

Highlight Links

เน้นการเชื่อมโยง

ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Change Color

เลือกปรับชุดสี

สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน

ย้อนกลับ

ความสุข ณ นาหมื่นศรี

ความสุขและวิถีชีวิต ที่ไม่สามารถหาได้จากสังคมเมือง

            โลกของเราที่กำลังอยู่ในยุคที่เรียกว่า “โลกาภิวัตน์” นั่นก็เพราะการพัฒนาการติดต่อสื่อสาร การคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆมากมายที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว หลายๆคนอาจจะชอบความสะดวกสบายที่ได้อยู่ในเมืองที่มีแต่ความทันสมัย มีแต่แสงสีและความสนุกสนานจากสถานบันเทิงต่างๆ นั่นก็เพราะสำหรับคนที่เกิดในเมืองคงไม่เข้าใจว่าการใช้ชีวิตแบบเด็กบ้านนอกว่ามันสุดยอดแค่ไหน เด็กบางคนอาจจะถูกล้อว่าเป็นเด็กหลังเขาแต่เมื่อเติบโตขึ้น ได้งานทำในเมืองใหญ่
ทุกคนก็เริ่มปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเข้าสู่การเป็นคนเมืองบางคนติดใจสังคมเมืองจนแทบไม่ยอมกลับบ้านเกิด แต่บางคนกลับโหยหาความรู้สึกบรรยากาศที่เงียบสงบของชนบทที่เคยสัมผัสตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก เช่นเดียวกันกับคนที่เกิดและเติบโตในสังคมเมืองที่ไม่เคยได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชนบทเลย
            โดยส่วนตัวฉันคิดว่าสังคมที่เงียบสงบเป็นสุขและมีอากาศที่บริสุทธิ์มีแต่ในชนบทเท่านั้น อาจเป็นเพราะชนบทเป็นสังคมที่เอื้ออาทรต่อกันมีการช่วยเหลือแบ่งปันกันระหว่างญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน รวมถึงการมีส่วนร่วมในชุมชนด้วย ทำให้ชุมชนน่าอยู่มากขึ้นนอกจากนี้การมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนในชนบท ซึ่งอาจจะดูเชยๆหน่อยแต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชนบทมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง

            ไม่แปลกเลยที่เด็กบ้านบ้านคนหนึ่งอย่างฉันจะหลงรักในความเป็นชนบทของบ้านตัวเอง เพราะว่าที่นี่มีทั้งความอบอุ่น รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่ทุกคนมอบให้กัน มีความจริงใจต่อกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่หายากมากๆในปัจจุบัน เพราะมีแต่คนหวังผลประโยชน์จากผู้อื่น หมู่บ้านของฉันชื่อว่า “นาหมื่นศรี” ตั้งอยู่ที่ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง เป็นชนบทที่มีความสวยงามปกคลุมไปด้วยธรรมชาติสีเขียวขจี และที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ไม่มีมลพิษเหมาะแก่การมาเที่ยวเป็นอย่างมาก
และที่ขาดไม่ได้เลยคือความมีน้ำใจและรอยยิ้มของชาวบ้านทุกๆคน ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะมีอาชีพเป็นเกษตรกร กรีดยางบ้างทำนาบ้าง หรือปลูกผักไว้ขาย
และรับประทานเอง ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านปลูกฝังให้ลูกหลานทุกคนได้ฝึกทำนา กรีดยางเพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ในอนาคต ถึงแม้ว่าจะเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่มากเท่าไหร่นักแต่ชาวบ้านก็มีความสุขที่ได้ทำเพราะเป็นอาชีพที่สุจริตและไม่ทำให้ใครต้องเดือดร้อน

                สิ่งที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่งของหมู่บ้านนาหมื่นศรีคือประเพณีพื้นบ้านของชาวบ้าน นั้นก็คือ “ประเพณีการแข่งขันลูกลม” หลายคนคงสงสัยว่าลูกลมคืออะไร ไม่เคยเห็นหรือว่าไม่ได้ได้ยินเลย ลูกลม หรือ กังหันลม ที่เอาไว้ไล่กาด้วยเสียง มีลักลักษณะเป็นกังหันเมื่อมีลมพัดจะทำให้เกิดเสียง ซึ่งถือเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบต่อมายาวนาน จนถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปี ต่อเนื่องมา 17 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่มีกระแสลมแรงเทศกาล ลูกลม จัดตรงกับช่วงเกี่ยวข้าวของตำบลนาหมื่นศรี ในทางวิทยาศาสตร์อาจมองได้ว่า ลูกลม มีหลักการทำงานเดียวกันกับ
หุ่นไล่กา คือใช้ไล่นกที่ลงมากินข้าวในแปลงนา แต่ ลูกลม ที่ตำบลนาหมื่นศรีแห่งนี้ มีความเชื่อมโยงกับความเชื่อและการเคารพในธรรมชาติผ่านตัวแทนความศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพธรรมชาตินั่นเอง

             ประวัติความเป็นมาของลูกลม เป็นเรื่องของเทพนิยายโบราณ ที่เล่าสืบต่อกันมา เป็นเรื่องของครอบครัวเล็กๆของพระพายบนสวรรค์ วันหนึ่งเป็นวันฤดูเก็บข้าว ซึ่งบนสวรรค์มีฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเหมือนกัน ลมพัดแรง เมื่อข้าวในนาเริ่มสุก มีนกลา นกไผ นกกระจาบ และนกอื่นๆ ออกมากินข้าว พระพายไม่มีเวลาเฝ้าทุกวัน เพราะต้องไปอยู่เวรทำพัดลมทำความเย็นให้เทวดา จึงมอบให้ลูกลมลูกของพระพายทำหน้าที่โห่นก ไล่กาแทน ลูกลมซึ่งขี้เกียจแต่มีปัญญา จึงคิดวิธีที่ไม่ต้องใช้เสียงของตัวเองในการไล่นก จึงทำสิ่งที่มีลักษณะแบบนี้ขึ้นมาพระพายมาเห็นก็ชื่นชมและบอกเทวดา และเห็นว่าควรเผยแพร่ไปยังเมืองมนุษย์ จึงแพร่หลายมาตั้งแต่นั้น และสืบเนื่องมาถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะที่นาหมื่นศรี จ.ตรัง มีประเพณีแบบนี้ที่นี่ที่เดียว

               ไม่ว่าจะเป็นสังคมเมืองหรือชนบทต่างก็มีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันนั้นคือการมีน้ำใจต่อกันในสังคม หลายคนเชื่อว่าการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายในชนบทสามารถสร้างความสุขให้กับตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาความสะดวกสบายอะไรเลย แค่มีรอยยิ้มและความจริงใจให้กับทุกๆคน และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ปราศจากมลพิษ แค่นี้ทำให้เรามีความสุขแล้ว เชื่อเถอะค่ะว่าไม่มีที่ไหนอบอุ่นเท่ากับบ้านของเราอีกแล้ว ไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไรต่างๆมากมาย ที่ทำให้เราต้องเหนื่อยหรือท้อแท้ ก็ขอให้นึกไว้เสมอว่าเรายังมีบ้านที่มีพ่อและแม่ ท่านกำลังรอเรากลับบ้านอยู่เสมอ...

 

เรียบเรียงข้อมูลโดย นางสาวรุ้งไพลิน เยาว์ดำ รหัสนิสิต 571071268 นิสิตมหาวิทยาลัยทักษิณ
คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ วิชาเอกการประกอบการและการจัดการ  ชั้นปีที่4
เบอร์โทร 089-4664320
E-mail  :  rungpailin268@gmail.com

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://reviewtrang.com/looklom/#

13,465 views

4

แบ่งปัน