สามารถเลือกปรับขนาดตัวอักษรได้ 3 ระดับ คือ 20% 30% และ 40% จากขนาดมาตรฐาน
การปรับระยะห่างของตัวอักษร และช่องว่างระหว่างบรรทัด สามารถปรับได้ 3 ระดับ เพื่อให้อ่านข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
ขยายขนาดของลูกศรชี้ตำแหน่ง (Cursor) ให้ใหญ่ขึ้นถึง 400%
จะมีเส้นปรากฏขึ้น พร้อมกับการเลื่อนลูกศรชี้ตำแหน่ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถโฟกัสข้อความที่ต้องการอ่านได้สะดวกขึ้น
ช่วยเน้นและแยกส่วนของลิงค์หรือปุ่มต่างๆ ออกจาก เนื้อหาภายในเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถมองเห็นปุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถเลือกปรับชุดสีของเว็บไซต์ได้ 4 แบบตัวอักษรและปุ่มต่างๆ มีสีเข้มคมชัด มองเห็นได้ชัดเจน
อนุสาวรีย์สามครูบา ตั้งอยู่บริเวณลานกว้างตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอลี้ การเดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์สามครูบา เดินทางจากตัวเมืองลำพูนมาตามถนนสาย 106 ลี้-ลำพูน ประมาณ 105 กิโลเมตร ถึงตัวอำเภอลี้เจอสี่แยกไฟแดง อนุสาวรีย์สามครูบาจะอยู่ทางขวามือ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 84 พรรษา และ ในโอกาสที่สถาปนา อำเภอลี้ ครบ 100 ปี
อนุสาวรีย์สามครูบาประดิษฐานรูปเหมือนครูบา 3 ท่าน ประกอบด้วย
ท่านแรก คือ ครูบาเจ้าศรีวิชัย (ถือกำเนิดที่ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้) แห่งวัดบ้านปาง ท่านได้ก่อสร้างและบูรณะปฏิสังขรวัดวาอารามในล้านนาไว้มากมาย อาทิเช่น ก่อสร้างพระธาตุบ้านปาง พระธาตุแม่ตืน สร้างประตูเมืองลี้ สร้างวิหารวัดพระสิงห์ บูรณะหอธรรมวัดพระสิงห์ สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ สร้างวิหารวัดพระนอนขอนม่วง จังหวัดเชียงใหม่ บูรณะพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย สร้างพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ สร้างวิหารหลวงวัดทุ่งเอื้อง จังหวัดพะเยา สร้างวิหารพระแก้วลำปาง วิหารวัดพระแก้วดอนเต้า จังหวัดลำปาง และอีกมากมายในพื้นที่ภาคเหนือ
ท่านที่สอง คือ ครูบาเจ้าอภิชัยขาวปี ศิษย์เอกของครูบาเจ้าศรีวิชัยแห่งวัดพระพุทธบาทผาหนาม ครูบาผู้มีจริยวัตรที่งดงาม ผู้สืบต่องานพัฒนาจากครูบาเจ้าศรีวิชัยในฐานะนักบุญ ครูบาผู้ทรงความงดงามในศีล บารมี ไม่แพ้ท่านอาจารย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย นอกจากนี้ท่านยังได้บูรณะปฏิสังขรวัดวาอารามและสถานที่สำคัญๆมากมาย อาทิเช่น วัดพระพุทธบาทผาหนาม โรงเรียนบ้านสามหลัง(อภิชัยบูรณะ) อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่และโรงพยาบาลอีกมากมาย นอกจากสถานที่ที่ท่านได้บูรณะแล้วท่านยังคงสร้างสรรค์งานต่างๆในรูปถาวรวัตถุ ทั้งในด้านพุทธจักร และอาณาจักรไว้อย่างมากมายเหลือคณา โดยมีโล่ห์จากทางราชการแสดงไว้ให้เห็นเป็นประจักษ์พยาน ถึงเกียรติคุณ นอกจากนี้ท่านยังได้เผยแพร่ธรรมะอันเป็นคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา สร้างความเชื่อมใสศรัทธาให้เกิดแก่ชาวกระเหรี่ยงที่อพยพมาอยู่ตามเชิงดอยผาหนาม จนสามารถเปลี่ยนความเชื่อจารีตประเพณีของชาวกระเหรี่ยงที่นับถือผีไหว้เจ้า ให้หันมาเลื่อมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนา และหันมากินมังสิวัตแทนเนื้อสัตว์
ท่านสุดท้าย คือ ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา แห่งวัดพระบาทห้วยต้ม ครูบานักพัฒนา โดยเส้นทางการพัฒนาของท่านเป็นเส้นทางที่ลึกซึ้งไปกว่าที่สายตาคนทั่วไปมองเห็น ท่านได้ธุดงค์ไปทั่วประเทศ ด้วยวัตรปฏิบัติและคำสั่งสอนของท่านทำให้ชาวไทยภูเขาที่พเนจรร่อนเร่ ตั้งใจอพยพครอบครัวมาตั้งหลักแหล่งอยู่ใกล้ๆกับท่าน ท่านได้เปลี่ยนคนที่นับถือผีให้กลายเป็นพุทธศาสนิกชนที่สมบูรณ์ และได้เปลี่ยนคนที่กินเนื้อสัตว์แทบทุกชนิด มาเป็นคนที่กินมังสวิรัติ ที่ “บ้านห้วยต้ม” พัฒนาชาวเขาที่ด้อยความรู้ ที่ไร้ฝีมือ ให้ช่วยสร้างโบสถ์สร้างศาลา สอนวิชาช่างให้แก่ชาวเขาเหล่านั้นจนเป็นความรู้ที่ติดต่อ และส่งผ่านความรู้เหล่านั้นสู่ลูกหลานจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ในวันที่ 18-20 เมษายน ของทุกปี เทศบาลตำบลวังดินได้จัดกิจกรรมเปลี่ยนผ้าและสรงน้ำรูปเหมือนสามครูขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทุกท่าน ได้มีโอกาสแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ต่อคุณงามความดี ที่ครูบาทั้งสามท่านได้ทำไว้แก่ประชาชนชาวลี้และคนล้านนา โดยมีพิธีบวงสรวงชุมนุมเทวดา ขบวนแห่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และแห่สลุงหลวง แล้วทำพิธีเปลี่ยนผ้ารูปเหมือนสามครูบาและสรงน้ำอนุสาวรีย์สามครูบาสืบเนื่องกันมาตลอดทุกปี
ขอบคุณภาพและบทความโดย
www.Wangdinli.go.th (เทศบาลตำบลวังดิน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน)