พุทธศักราช ๒๓๘๗ “บางกอกรีคอร์ดเดอร์”หนังสือพิมพ์ภาษาไทยเล่มแรกในประวัติศาสตร์สยามถือกำเนิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนายแพทย์ชาวอเมริกัน ที่คนไทยรู้จักดีในนาม “หมอบรัดเลย์” หรือ “ปลัดเล” ซึ่งเพี้ยนเสียงมาจากนามจริงว่า ดร.แดเนียล บีช แบรดลีย์ (Dr.Daniel Beach Bradley) เป็นผู้สถาปนา
โดยเริ่มจากการตั้งโรงพิมพ์ คิดตัวพิมพ์ภาษาไทย เพื่อพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับศาสนาและการแพทย์สำหรับแจกและจำหน่าย จนนำไปสู่การพิมพ์หนังสือทั่วไป อาทิ นิราศลอนดอน จินดามณี สามก๊ก และ “อักขราภิธานศรับท์” ซึ่งถือเป็นพจนานุกรมเล่มแรก ในส่วน “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” ก็มีการรายงานข่าว และการเขียนบทความเชิงวิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างทันสมัยเป็นครั้งแรก
(หมอบรัดเลย์ – ภาพ – วิกิพีเดีย)
หมอบรัดเลย์จึงถือเป็น “บิดาแห่งการพิมพ์” และ “ผู้สร้างตำนานแพทย์แผนใหม่ของสยาม” เป็นเหตุให้ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ ทรงถือหมอบรัดเลย์เป็นพระสหายสนิท และทรงให้เกียรติหมอถึงขั้นว่าหากปีใด วันพระราชสมภพของพระองค์ตรงกับวันอาทิตย์ ก็จะทรงเลื่อนงานฉลองเป็นวันถัดไป เพื่อให้หมอและคณะมิชชันนารีมาร่วมงานได้
ครั้นเมื่อหมอออกหนังสือพิมพ์ “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” ก็ทรงสมัครเป็นสมาชิก และพระราชนิพนธ์บทความไปตีพิมพ์อยู่เนืองๆ และบางครั้งก็เป็นการโต้แย้งหมอบรัดเลย์ ดังบันทึกของแหม่มแอนนา เลโอโนเวลส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในสมัยร.๔ ตอนหนึ่งว่า...
(ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ / ภาพ – https://www.topicstock.pantip.com)
“ท่านผู้เฒ่าที่น่านับถือทั้งคู่นี้ มักจะโต้แย้งแสดงคารมกันในหนังสือพิมพ์เนือง ๆ เช้าวันนี้ได้ทรงพระราชนิพนธ์โต้แย้งเรื่องมนุษย์เราเกิดมามีบาปติดตัวของหมอปลัดเล ขณะที่แหม่มกำลังคัดพระราชหัตถ์เลขาเพื่อจะส่งไปตีพิมพ์นั้น พระองค์ท่านทรงสำราญพระราชหฤทัยเป็นอันมาก เพราะทรงดำริว่าคราวนี้หมอปลัดเลคงจะต้องยอมจำนนต่อเหตุผลของพระองค์ท่านเป็นแน่”
หมอบรัดเลย์ก็เคยเขียนวิจารณ์ว่า เงินทองของสยามประเทศมีไม่มาก แต่แทนที่จะเอาเงินไปพัฒนาประเทศ พระมหากษัตริย์กลับเอาไปใช้เลี้ยงคนในวังอย่างไม่จำเป็นถึง 22,754 คน ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ไม่ทรงกริ้ว ด้วยทรงเข้าใจดีว่าหมอบรัดเลย์หวังดีกับเมืองไทย ยกเว้นคราวที่หมอบรัดเลย์เขียนว่าทรงมีเจ้าจอมมากกว่าพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเขียนค้านทันทีว่า พระปิ่นเกล้าฯมีมากกว่าพระองค์
ทั้งนี้ “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” จัดพิมพ์ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ออกปักษ์ละ ๒ ใบ มี ๔ หน้า โดยฉบับภาษาไทย ใช้ชื่อว่า “หนังสือจดหมายเหตุ” รูปแบบการจัดหน้าแบ่งออกเป็น ๒ คอลัมน์ มีภาพประกอบคือภาพวาด ขายปลีกใบละสลึงเฟื้อง ถ้าซื้อแบบพิมพ์เป็นเล่มรวมเมื่อปลายปีขายเล่มละ 5 บาท
เนื้อหามีลักษณะเป็นตำรา ข่าวทั้งต่างประเทศและในประเทศ ราคาสินค้า และบทความเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในสมัยนั้น โดยหมอบรัดเลย์ชี้แจงวัตถุประสงค์ไว้ใน “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” ฉบับปฐมฤกษ์ว่า หนังสือพิมพ์นั้นมีคุณต่อบ้านเมืองเป็นอันมาก เป็นแสงสว่างของบ้านเมือง คนชั่วเท่านั้นที่กลัวหนังสือพิมพ์ เพราะกลัวว่าหนังสือพิมพ์จะประจานความชั่วของตน
เอกสารอ้างอิง
๑.ส.พลายน้อย. ชาวต่างชาติในประวัติศาสตร์ไทย. กรุงเทพ : บำรุงสาส์น, ๒๕๑๗
๒. สุกัญญา ตีระวนิช. หมอบรัดเลกับการหนังสือพิมพ์กับกรุงสยาม. กรุงเทพ : มติชน, ๒๕๒๙
http://img.thaibuzz.com/ip/p3005.jpeg
ชีวิตในพระราชฐานฝ่ายใน (ภาพ – https://www.chaoprayanews.com)
กรุงเทพฯสมัยรัชกาลที่ ๔ (ภาพ – https://www.topicstock.pantip.com)
โดยเริ่มจากการตั้งโรงพิมพ์ คิดตัวพิมพ์ภาษาไทย เพื่อพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับศาสนาและการแพทย์สำหรับแจกและจำหน่าย จนนำไปสู่การพิมพ์หนังสือทั่วไป อาทิ นิราศลอนดอน จินดามณี สามก๊ก และ “อักขราภิธานศรับท์” ซึ่งถือเป็นพจนานุกรมเล่มแรก ในส่วน “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” ก็มีการรายงานข่าว และการเขียนบทความเชิงวิพากษ์วิจารณ์สังคมอย่างทันสมัยเป็นครั้งแรก
(หมอบรัดเลย์ – ภาพ – วิกิพีเดีย)
หมอบรัดเลย์จึงถือเป็น “บิดาแห่งการพิมพ์” และ “ผู้สร้างตำนานแพทย์แผนใหม่ของสยาม” เป็นเหตุให้ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ ทรงถือหมอบรัดเลย์เป็นพระสหายสนิท และทรงให้เกียรติหมอถึงขั้นว่าหากปีใด วันพระราชสมภพของพระองค์ตรงกับวันอาทิตย์ ก็จะทรงเลื่อนงานฉลองเป็นวันถัดไป เพื่อให้หมอและคณะมิชชันนารีมาร่วมงานได้
ครั้นเมื่อหมอออกหนังสือพิมพ์ “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” ก็ทรงสมัครเป็นสมาชิก และพระราชนิพนธ์บทความไปตีพิมพ์อยู่เนืองๆ และบางครั้งก็เป็นการโต้แย้งหมอบรัดเลย์ ดังบันทึกของแหม่มแอนนา เลโอโนเวลส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในสมัยร.๔ ตอนหนึ่งว่า...
(ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๔ / ภาพ – https://www.topicstock.pantip.com)
“ท่านผู้เฒ่าที่น่านับถือทั้งคู่นี้ มักจะโต้แย้งแสดงคารมกันในหนังสือพิมพ์เนือง ๆ เช้าวันนี้ได้ทรงพระราชนิพนธ์โต้แย้งเรื่องมนุษย์เราเกิดมามีบาปติดตัวของหมอปลัดเล ขณะที่แหม่มกำลังคัดพระราชหัตถ์เลขาเพื่อจะส่งไปตีพิมพ์นั้น พระองค์ท่านทรงสำราญพระราชหฤทัยเป็นอันมาก เพราะทรงดำริว่าคราวนี้หมอปลัดเลคงจะต้องยอมจำนนต่อเหตุผลของพระองค์ท่านเป็นแน่”
หมอบรัดเลย์ก็เคยเขียนวิจารณ์ว่า เงินทองของสยามประเทศมีไม่มาก แต่แทนที่จะเอาเงินไปพัฒนาประเทศ พระมหากษัตริย์กลับเอาไปใช้เลี้ยงคนในวังอย่างไม่จำเป็นถึง 22,754 คน ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 ไม่ทรงกริ้ว ด้วยทรงเข้าใจดีว่าหมอบรัดเลย์หวังดีกับเมืองไทย ยกเว้นคราวที่หมอบรัดเลย์เขียนว่าทรงมีเจ้าจอมมากกว่าพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเขียนค้านทันทีว่า พระปิ่นเกล้าฯมีมากกว่าพระองค์
ทั้งนี้ “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” จัดพิมพ์ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ออกปักษ์ละ ๒ ใบ มี ๔ หน้า โดยฉบับภาษาไทย ใช้ชื่อว่า “หนังสือจดหมายเหตุ” รูปแบบการจัดหน้าแบ่งออกเป็น ๒ คอลัมน์ มีภาพประกอบคือภาพวาด ขายปลีกใบละสลึงเฟื้อง ถ้าซื้อแบบพิมพ์เป็นเล่มรวมเมื่อปลายปีขายเล่มละ 5 บาท
เนื้อหามีลักษณะเป็นตำรา ข่าวทั้งต่างประเทศและในประเทศ ราคาสินค้า และบทความเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในสมัยนั้น โดยหมอบรัดเลย์ชี้แจงวัตถุประสงค์ไว้ใน “บางกอกรีคอร์ดเดอร์” ฉบับปฐมฤกษ์ว่า หนังสือพิมพ์นั้นมีคุณต่อบ้านเมืองเป็นอันมาก เป็นแสงสว่างของบ้านเมือง คนชั่วเท่านั้นที่กลัวหนังสือพิมพ์ เพราะกลัวว่าหนังสือพิมพ์จะประจานความชั่วของตน
เอกสารอ้างอิง
๑.ส.พลายน้อย. ชาวต่างชาติในประวัติศาสตร์ไทย. กรุงเทพ : บำรุงสาส์น, ๒๕๑๗
๒. สุกัญญา ตีระวนิช. หมอบรัดเลกับการหนังสือพิมพ์กับกรุงสยาม. กรุงเทพ : มติชน, ๒๕๒๙
http://img.thaibuzz.com/ip/p3005.jpeg
ชีวิตในพระราชฐานฝ่ายใน (ภาพ – https://www.chaoprayanews.com)
กรุงเทพฯสมัยรัชกาลที่ ๔ (ภาพ – https://www.topicstock.pantip.com)
วันที่สร้าง : 15 กันยายน 2560
สร้างโดย
ความคิดเห็น
แจ้งข้อความไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น (0)
โหลดเพิ่มเติม
กระทู้ยอดนิยม